ไฮไลต์การเมืองวานนี้ ๑๖ ม.ค.๒๕๖๖ ต้องโฟกัสไปที่บรรยากาศการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ลำปาง และ จ.พะเยาของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อย่างที่รู้ว่าพื้นที่จ.พะเยาเป็นอาณาจักรของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่ตอนนี้กำลังถ่ายเลือดผ่องบรรดาลูกน้องของตัวจากศท.กลับมาตายรังที่พปชร. ตอนนี้หลายคนก็กลับมาเงียบๆ ย่องเข้าพรรคมาแบบกลัวคนรู้ แต่หัวหน้าใหญ่อย่างผู้กองยังไม่กลับมาอย่างเป็นทางการแม้ลุงป้อมอยากให้กลับมาช่วยงานใจจะขาด เพราะนักเลงการเมืองอย่างร.อ.ธรรมนัสจำเป็นและสำคัญในช่วงเลือกตั้ง หลังเสร็จภารกิจช่วงเช้าที่ลำปาง ช่วงบ่ายลุงป้อมและคณะก็ไปต่อที่จ.พะเยา งานนี้มีการจัดเวทีให้พบปะชาวบ้าน ณ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา โดยร.อ.ธรรมนัส ขนส.ส.ศท.มาต้อนรับลุงป้อมแบบอุ่นหนาฝาคั่ง ประกอบด้วย ๑.จีระเดช ศรีวิลาศ ส.ส.พะเยา ๒.พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร ๓.เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา ๔.สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น ๕.ปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ๖.ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก และ ๗. บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ย้ายกลับไปอยู่กับพปชร. มารอรับต้อนรับลุงป้อมอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านหลายพันคน ถือสารพัดป้ายมาเชียร์ลุงป้อมแบบจัดเต็ม อาทิ อยากให้ลุงป้อมเป็นนาย,เรารักลุงป้อม,เคียงข้างลุงป้อม, Love ลุงป้อม , ลุงป้อม สู้สู้, ฮักลุงป้อม จากใจ
ฝ่ายผู้กองเดินปราศรัยกับชาวบ้าน ทั้งอวยทั้งหยอดลุงป้อมไม่หยุด ” วันนี้พานายกฯคนที่ ๓๐ มาพบกับชาวพะเยา จากนั้นในช่วงบ่าย ๓ ลุงป้อมได้นั่งรถกอล์ฟมายังลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง โดยมีร.อ.ธรรมนัสเดินขนาบรถทำหน้าที่ทส.อยู่ไม่ห่าง ภายหลังพล.อ.ประวิตรพูดบนเวทีกับชาวบ้านเสร็จ ไฮไลต์ของงานก็อุบัติขึ้น หลังร.อ.ธรรมนัส บุญสิงห์ และส.ส.ในกลุ่มทั้งหมดได้เดินขึ้นเวทีโดยถือพวงมาลัย จากนั้นร.อ.ธรรมนัสได้นำทั้งหมดคุกเข่ามอบพวงมาลัยและยกมือไหว้พล.อ.ประวิตร ด้านล่างโฆษกในงานอย่าง วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ก็พากษ์ยกยอปอปั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำนองว่า ” เวลานี้ลุงป้อมเปรียบเหมือนพ่อ วันนี้ลูกกลับมาบ้าน มาช่วยพาบ้านพลังประชารัฐให้เข้มแข็ง และแข็งแกร่งโดยเฉพาะจ.พะเยายกทีม …..ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกไว้เลยว่าลูกๆกลับมาบ้านแล้ว พ่อดีใจมากเลยครับ หุงข้าวไว้รอแล้ว ” วิรัชบรรยายเรียกเสียงฮาจากชาวบ้าน
จับบรรยากาศลุงป้อมรับผู้กองธรรมนัสกับก๊วนกลับพปชร.รอบนี้ ตัวผู้กองกับพรรคพวกอาจปลื้มปริ่ม แต่ถ้าดูท่าทีของลุงป้อมจับอากัปกิริยาของหัวหน้าพปชร.จะเห็นได้ชัดว่า แบ่งรับแบ่งสู้กับการมาเปิดตัวของผู้กองในรอบนี้ ความจริงลุงป้อมประกาศเบะท่าอยากดึงผู้กองกับก๊วนศท.กลับพปชร.ใจจะขาด แม้จะรู้ดีว่าผู้กองเป็น “ของแสลง” สำหรับคนในพปชร. เป็นประเภท “เรียกแขก” ให้กับตัวเอง แต่ทฤษฎี “แมวสีเทา” ก็จับหนูได้เหมือนกัน จึงทำให้ลุงป้อมต้องเลี้ยงผู้กองไว้ แม้จะรู้ดีว่าร.อ.ธรรมนัสเสมือนลูกไฟอยู่ที่ไหนก็ร้อนอยู่ที่ไหนก็มีแต่เผาไหม้ที่นั้น แต่เพราะ ๓ ป.แตกแล้ว “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯน้องเล็กได้แยกทางกันเดิน พปชร.มีแต่เสื่อมทรุดไปหน้า มีแต่คนทยอยออก ถูกเซียนการเมืองประเมินว่าเลือกตั้งคราวหน้าอาจเป็นพรรคต่ำ ๔๐ คน ทักษิณยังปรามาสเต็มที่แค่ ๓๕ ไม่เกิน ๔๐ แน่ๆ ลุงป้อมไม่มีทางเลือกต้องรีบดึงร.อ.ธรรมนัสกับก๊วนศท.กลับมากอบกู้พรรคโดยไว เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรเป็นจุดขายจุดแข็งของพรรคอีกต่อไปแล้ว
ร.อ.ธรรมนัสกลับพปชร.ข่าวออกมานานนับเดือน แต่ที่ยังดูไม่จบยังไม่สะเด็ดน้ำเสียที ทั้งๆที่ลุงป้อมก็อยากรับลูกรักกลับบ้าน ฝ่ายผู้กองก็อยากกลับมาซบไออุ่นพ่อใหญ่ป้อม ณ ป่ารอยต่อ ชนิดใจจะขาดรอนๆ ก็เพราะมันมีประเด็นทุนจีนสีเทาเกิดของ “ตู้ห่าว” ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เจ้าพ่อทุนจีนสีเทางอกออกมา ลำพังแค่เรื่องตู้ห่าวอย่างเดียวมันไม่เท่าไหร่ แต่ที่มันเป็นประเด็นก็เพราะข้อมูลที่ “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉแหลกว่าผู้กองธรรมนัสรู้จักตู้ห่าวและอาจมีเอี่ยวกับเรื่องทุนจีนสีเทา พูดอย่างเดียวไม่พอชูวิทย์ยังเอาภาพเอาข้อมูลสารพัดมาแฉว่า ร.อ.ธรรมนัสกับตู้ห่าวรู้จักมักคุ้นสนิทสนมกันจริงๆ ถึงขั้นอาจมีธุรกิจร่วมกัน ถึงขั้นอาจใช้เครื่องบินส่วนตัวของกันและกัน ดูแลเกื้อกูลช่วยเหลือกันมาตลอด ประมาณ “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า” หนักกว่านั้นคือการพบข้อมูลว่าตู้ห่าวเคยบริจาคเงินอุดหนุนพปชร. ๓ ล้านบาท แถมเคยเข้าพบบิ๊กพปชร.ที่ชอบสะสมนาฬิกา เรื่องของตู้ห่าวกับร.อ.ธรรมนัสลองไปถามคนในยุทธจักร ถามคนกลางคืน ถามพวกสีเขียวสีกากีทุกคนรู้ดีว่าทั้งคู่ถ้อยทีถ้อยอาศัยหากินกันยังไง
เพราะปมร้อนเรื่องนี้แหละที่ทำให้ลุงป้อมพะอืดพะอมกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่จะรับตัวลูกรักอย่างร.อ.ธรรมนัสเข้าพปชร.ไวไว ทั้งๆที่เวลาเลือกตั้งก็งวดเข้ามาทุกที ๒๔ มี.ค.๒๕๖๖ จะครบวาระสภาผู้แทนราษฎรแล้ว อายุรัฐบาลก็กำลังจะหมด ยุบสภาก็คงอยู่ในช่วง ๒ เดือนนี้แหละ ลุงป้อมคงร้อนใจไม่อาจใช้ขุนพลลูกรักจากกว๊านพะเยาได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะถ้ารับร.อ.ธรรมนัสกลับเข้ามาถ้าตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรค ในการประชุมใหญ่ ๒๑ ม.ค.ที่จะถึงนี้ วันดีคืนดีจับผลัดจับผลู่มีคนไปร้องกกต.ว่าผู้กองมีเอี่ยวทุนจีนสีเทาเกี่ยวข้องตู้ห่าว เล่นแร่แปรธาตุข้อกฎหมายให้ยุบพปชร. ความซวยมาจะมาเยือนเอาง่ายๆความฉิบหายจะเกิดกับพรรคแบบฉับพลัน แทนที่จะฝันหวานกวาดส.ส. ๑๐๐ คนตามเป้าหมายวิรัช ได้ส.ส. ๑๕๐ คนตามแผนของสันติ อาจต้องล่องจุ๊นนั่งตบยุงอยู่ที่บ้าน ถูกตัดสิทธิ์การเมืองไปยาวๆ ต้องนั่งเชียร์คนอื่นแข่งเลือกตั้ง สู้แขวนผู้กองเป็น “ตัวกวาดอิสระ” คอยช่วยลุงป้อมเข็นพปชร.แบบลับๆอยู่เบื้องหลังน่าจะโอเคกว่า ล่าสุดดูท่าน่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังบุญสิงห์ออกมายืนยัน กลุ่มผู้แทนศท.ทั้ง ๑๑ คน จะเข้าร่วมงานกับพปชร.ก่อนวันที่ ๗ ก.พ.นี้ โดยไม่รอให้มีการยุบสภา ส่วนร.อ.ธรรมนัสจะไม่รับตำแหน่งใดในพปชร. “ร.อ.ธรรมนัส ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคพลังประชารัฐ เพราะว่าท่านได้ช่วยงานพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ได้อยู่แล้ว ” บุญสิงห์ระบุ ไม่บอกเหตุผลว่าทำไมเบอร์ใหญ่ตัวตึงอย่างร.อ.ธรรมนัสถึงไปยอมรับตำแหน่ง ต่อให้ไม่บอกความจริงแต่คอการเมืองก็พอเดาออกไม่อย่างเสี่ยงพาพปชร.ขึ้นเขียง ตายทั้งกลมก่อนวันเลือกตั้งจะพาลฉิบหายกันทั้งพรรค เส้นทางร.อ.ธรรมนัสเหมือนบุญมีแต่กรรมบัง เป็นรัฐมนตรีได้แพพเดียวก็ถูกปลดออก อยู่พรรคไหนพรรคนั้นตายหมด ทะเลาะกับหัวหน้าพรรคไปทั่ว เที่ยวนี้จะกลับมาช่วยลูกพี่ป้อมก็เจอคดีตู้ห่าวเบรกดังเอี๊ยด เป็นขุนศึกออกรบเบื้องหน้าหาความชอบไม่ได้ ต้องเป็นขุนพลเงาทำอะไรแอบๆ ช่วยลุงป้อมอยู่เบื้องหลัง รอให้เรื่องเงียบข่าวซาค่อยว่ากันอีกที
////////////////