“ทหารเสือราชินี นายกรัฐมนตรีคนที่ 29” จับตาปฐมบทใหม่ “ลุงตู่” สู่ใต้ร่มเงา “รวมไทยสร้างชาติ”

“ทหารเสือราชินี นายกรัฐมนตรีคนที่ 29” จับตาปฐมบทใหม่ "ลุงตู่" สู่ใต้ร่มเงา “รวมไทยสร้างชาติ”

“เขา” คือ “ทหาร” ที่ปกครองประเทศชาติในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” ได้ดีกว่านักการเมืองมืออาชีพ ….. ถึงแม้ว่าย้อนกลับไป ตลอดระยะเวลากว่า 8  ปี ที่ผ่านมา “ลุงตู่” จะต้องฝ่ามรสุม อุปสรรค ทางการเมืองมากมาย แต่ก็มุ่งหมาย สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศชาติ เป็นสำคัญ

 

 

 

 

หลายทศวรรษที่ผ่านมา ภายหลังประเทศไทยเปลี่ยนระบอบการปกครองจาก “สมบูรณาญาสิทธิราชย์” มาเป็น “ประชาธิปไตย” เราได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร มาแล้วทั้งสิ้น 11 คน หนึ่งในนั้นคือ “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีต “ทหารเสือราชินี” ที่มีเลือดความจงรักภักดี ต่อชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเข้มข้น …

ข่าวที่น่าสนใจ

 

“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือ “ลุงตู่” คนนี้ ครั้งยังดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการทหารบก” ได้ทำการรัฐประหาร รัฐบาล “นางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร” ซึ่งมี “นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” นั่งตำแหน่งอยู่ในระหว่างรักษาการ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 …. และตลอดเวลาที่ พลเอกประยุทธ์ ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็จะถูกครหาจากผู้สนับสนุนการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่องว่า พยายามบังคับใช้กฎหมายกวาดล้าง สกัดกั้นเครือข่ายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการเขียนกติกาเพื่อการ “สืบทอดอำนาจ” … เหล่านี้เป็นเรื่องที่ตัวเค้าเอง ยืนยันมาตลอดว่า “ไม่ใช่ข้อเท็จจริง”

เกือบ 5 ปี ที่รัฐบาลภายใต้การปกครองโดยทหาร มีผลงานเข้าตา ทั้งการยกระดับ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  (EEC) ,การพัฒนาภาคเกษตรกรรมและประมง,การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจและการกำกับดูแล,นโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล
,การปฏิรูปการศึกษา ,การคมนาคม และอื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ แต่ก็มิวายโดนคนคิดต่าง “ด้อยค่า โจมโต” และพยายามออกมาเรียกร้องกดดันการทำงานตลอดระยะเวลาที่ “พลเอกประยุทธ์” ยังอยู่ในอำนาจ

การเลือกตั้งเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2562 ท่ามกลางเสียงฮือฮาจากประชาชนทุกฝั่งฝ่าย ภายหลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลายเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งเดียวของ “พรรคพลังประชารัฐ” และแม้ในครั้งนั้น “พรรคพลังประชารัฐ”  มีจำนวน ส.ส. ในสภาฯ ไม่อยู่ใรอันดับที่1 แต่สามารถรวมเสียง ส.ส. จากพรรคการเมืองอื่นๆ จัดตั้งรัฐบาล อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคภูมิใจไทย ,รวมถึงพรรคเล็กที่มี ส.ส. 1 คน กว่า 10 พรรค สู่การเป็น “รัฐบาลผสม 19 พรรค” ทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัย

ผลงานรัฐบาล “ประยุทธ์ 2 “ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศชาติแบบจับต้องได้ และ ยั่งยืนในทุกมิติ กลายเป็นจุดแข็ง ส่งผลให้ภาคประชาชนออกมาผนึกกำลัง สนับสนุน และให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ….แม้กระทั่ง นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจำนวนไม่น้อย ก็หาญกล้าที่จะเปิดหน้าตะโกนบอกสื่อมวลชน และคนทั้งประเทศว่า ขอเดินเกมการเมืองเคียงข้าง “พลเอกประยุทธ์”

มรสุมความขัดแย้งของ “รัฐบาลผสม” เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ มีเรื่องเหนือความคาดหมายให้ต้องลุ้นกันถี่ๆรายวัน แต่เรื่องที่สร้าง “รอยร้าว หนักหน่วง”​ โชว์แผลความขัดแย้งกันเองภายใน และกลายเป็นข่าวฉาวสุดในรอบหลายปี ต้องยกให้ความอีรุงตุงนังของนักการเมืองใน “พรรคพลังประชารัฐ” …เมื่อรุ่นเล็กฟัดเหวี่ยงกันแบบเอาเป็นเอาตาย ท้ายที่สุดก็สะเทือนถึง “รุ่นใหญ่” กลายเป็นปัญหาบานปลายข่าวใหญ่ระดับชาติ ตามมาด้วยข้อมูลที่แพร่สะพัดออกมา ถึงความสัมพันธ์ที่แตกหักของพี่น้อง 2 ป. นั่นก็คือ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” และ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ข่าวลือเหล่านั้นบานปลายไปถึงขึ้นที่ว่า “ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” มุ่งหมายที่จะแยกตัวออกมาสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ท่ามกลางความคลุมเครือหลายเรื่องราว ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ เองก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่มีการยืนยันชัดเจนจากใคร

จนท้ายที่สุด วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อข่าวลือที่ถูกเป่าหูมาช่วงระยะเวลาหนึ่งปรากฎชัดเจน…. “พลประเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกองทัพ นักการเมือง “รุ่นเก่า – รุ่นใหม่” ยืนเรียงโชว์หน้าเต็มเวที หนึ่งในนั้นมี “นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” อดีตนักกฎหมายมือฉมัง การันตรีความสามารถด้วยตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ติดต่อกันหลายสมัย ร่วมประกาศจุดยืนการขับเคลื่อนพรรค เพื่อประเทศชาติและประชาชน

เรื่องเก่าผ่านไป “ปฐมบทใหม่” เกิดขึ้นแล้ว เมื่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตัดสินใจ ย้ายเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาบ้านหลังใหญ่ และสมาชิกในบ้านหลังนี้ มีฝีมือที่จัดว่าดีจริง ด้วยประสบการณ์ความเพียบพร้อม จึงสามารถการันตีได้ว่า “ทุกคนในบ้าน” จะร่วมกันจับมือ เดินเคียงข้าง “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ค่อยๆสร้างรากฐาน ตอกเสาคานบ้านให้แข็งแรง เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ และคนไทยทั้งชาติ ให้ดำรงอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุข ต่อไป ขอเพียงคนทั้งประเทศไว้วางใจ และให้โอกาส สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม
“ทนายสายหยุด” หน้าชา! “ทนายเดชา” ซัดคบไม่ได้-ขายลูกความ ไม่เชื่อ “ทนายตั้ม” ค้านประกันเมีย
รองพ่อเมืองกรุงเก่า ร่วมงานวิ่ง 'CPF & KASETPHAND RUN FOR CHARITY 2024' มอบรายได้แก่ 4 โรงพยาบาล ใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ซีพีเอฟ คว้า 2 รางวัล Excellence Awards 2024 เป็นเลิศด้านการตลาด-ด้านสินค้าและบริการ
ดีเอสไอ คุมตัว ‘สามารถ-แม่’ ยื่นฝากขังอศาลอาญา ด้านแม่ ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ลั่นถูกกลั่นแกล้ง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น