“สนธิ” ขุดชุดใหญ่ “แม็ก โฮลเดม” จี้ DSI ปปง.สอบโชว์รวยพันล้าน

"สนธิ" ขุดชุดใหญ่ "แม็ก โฮลเดม" จี้ DSI ปปง.สอบโชว์รวยพันล้าน

กำลังร้อนสุด ๆ กับปมมืดในวงการธุรกิจสีเทา จากการที่้ TOP NEWS เริ่้มขุดคุ้ยความไม่ปกติที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจค้าสลากออนไลน์ โดยกำหนดราคาขาย 80 บาท ตามข้อกฎหมาย แต่บวกเพิ่มค่าบริการอีก 20-23 บาท ต่อใบ ของ “กองสลากพลัส” จนทำให้ราคาขายปลีกเกินอัตราควบคุม และยังมีข้อสงสัยเรื่องที่มาของเงินจำนวนมาก ในการนำไปกว้านซื้อสลากฯในตลาดมารวมชุดขายผ่านออนไลน์

ต่อมานายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้แสดงความคิดผ่านรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” กรณีมีข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตรวจสอบพบ 39 เส้นทางการเงิน มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท เชื่อมโยงไปถึง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส”

โดยใจความสำคัญของการเปิดประเด็น นายสนธิ ตั้งข้อสงสัยเรื่องแหล่งที่มาเงินทุนหลายพันล้านบาท ในการนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนจัดซื้อสลากฯ เพื่อนำมาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ มูลค่าต่องวดกว่า 1,300-1,400 ล้านบาท ว่า ถ้าวิธีการบริหารการเงินในการไล่ซื้อสลากในแต่ละงวดหมุนเงินประมาณ 2 รอบ ต้องมีเงินอย่างน้อย 600-700 ล้านบาท ในการซื้อสลากมา แล้วเอาเงินสดที่ได้จากการขายให้ลูกค้ามาซื้อสลากอีกรอบหนึ่ง คำถามคือเงิน 600-700 ล้านบาทมาจากไหน

เนื่องเพราะก่อนหน้าจะถูกดีเอสไอออกหมายเรียก “นอท พันธ์ธวัช” อ้างว่าเงินลงทุนมาจากการกู้ยืมคนอื่นมาทั้งหมด ไม่มีเงินตัวเองเลย และเงิน 600-700 ล้านบาทต่องวด ไม่ได้กู้มาจากระบบธนาคาร หรือ ระบบการเงินปกติ แต่เป็นการกู้ยืมแบบทำสัญญาเงินกู้กับ บุคคล หรือ นิติบุคคลที่ที่ไว้ใจในตัว “นอท พันธ์ธวัช” และต้องไว้ใจอย่างมากด้วย เพราะเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทนั้นถือว่ามีมูลค่ามหาศาล

ไม่เท่านั้น นายสนธิ ยังตั้งข้อสังเกตุไปถึงเรื่องเอกสารสัญญาร่วมลงทุนและค้ำประกัน ระหว่าง “บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด” กับ “บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด” โดยเน้นย้ำว่า บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นของ นายแทนไท ณรงค์กูล เด็กหนุ่มวัย 26 ปี และ ใน ปี 2563 เคยถูกจับข้อหาเปิดเว็บพนันฟุตบอลที่มีเงินหมุนเวียนเป็นหมื่นล้านบาท แต่กลับหลุดคดีอย่างปาฏิหาริย์ และทุกวันนี้ยังร่ำรวยมีเงินเป็นพันล้านบาท จนสามารถนำเงินไปหว่านประมูลซื้อทะเบียนรถเลขสวยได้ในราคากว่า 45 ล้านบาท

ทั้งยังเป็นเจ้าของตัวจริงของ บริษัทไททันฯ ซึ่งในระยะเวลาไม่ถึงปี คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กันยายน 2565 หรือ เพียง 7-8 เดือน สามารถเพิ่มทุน บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด จาก 5 ล้านเป็น 900 ล้านบาทมาได้แบบน่าอัศจรรย์

“ตนไม่ได้กล่าวหา หรือ ทึกทักไปเองแต่หากลองเชื่อมโยงเส้นเวลา หรือ Timeline การก่อตั้งและเพิ่มทุนของ บริษัทไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ของนายแทนไท ในช่วงปี 2565 กับ การผงาดขึ้นมาของแพลตฟอร์ม กองสลากพลัส ของนายนอท พันธ์ธวัช ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะพบว่ามีความสอดคล้องกันอย่างมีนัยสำคัญ”

 

กล่าวคือ บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ปลายปี 2564 ฉลองครบรอบ 1 ปี ประกาศจับมือร่วมกันทำงานระหว่าง บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด กับ บริษัท เนรมิตรหนังฟิล์ม จำกัด (บริษัทในเครือไททันฯ) เพื่อทำโปรเจ็กต์ใหม่ๆ

ตั้งแต่เดือนมีนาคม – เมษายน 2565 มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยสามารถยึดตลาดหวยออนไลน์มาจาก “มังกรฟ้า” ผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดหวยออนไลน์ได้อย่างเต็มตัว โดยมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลักแสน เป็นหลักล้าน หลักสิบล้าน หลักร้อยล้าน หลักพันล้านบาท

ขณะที่การเติบโตของ บริษัทไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท วันที่ 1 มีนาคม 2565 เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท เป็น 505 ล้านบาท วันที่ 12 กันยายน 2565 เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 395 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท

จึงมีข้อสังเกตว่า สิ่งที่นายพันธ์ธวัช และนายแทนไททำนั้นมีประเด็นที่ต้องนำไปชี้แจงเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.), รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่กำลังจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด

รวมถึงยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ตรวจสอบพบการรับโอนเงินในลักษณะดังกล่าว ยังเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง และหากเงินที่ผิดกฎหมาย หรือตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้ และ “นอท พันธ์ธวัช” ชี้แจงไม่ได้ก็จะเข้าข่าย ตาม มาตรา 5 ของ พระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ที่กำหนดความผิดต่อครั้งตามจำนวนการโอน 3 ครั้งก็ 3 กรรม 5 ครั้งก็ 5 กรรม 10 ครั้งก็ 10 กรรม ครั้งหนึ่งโทษจำคุก 1- 10 ปี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้เผยแพร่คลิปการจัดรายการของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ในหัวข้อ สวัสดีสรรพากร!!! เปิดสปอร์ตไลท์ เอาไฟส่อง “แม็กซิม โฮลเดม” ขายกางเกงยีนส์อย่างไรให้รวยพันล้าน? โดยใจความสำคัญเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์บุกกวาดล้างจับกลุ่มกลุ่มคนไทย ที่เข้าไปเชื่อมโยงกับแก๊งทุนจีนสีเทา ว่า ถึงแม้จะพยายามอวดรวย โชว์ไลฟ์สไตล์ชีวิตหรูหรา แต่สุดท้ายหนีความจริงไม่พ้น เรื่องการนำเงิน เงินบาป เงินผิดกฎหมาย สีดำ สีเทา มาใช้จ่าย ก่อนชีวิตต้องประสบวิบากกรรม ติดคุกไปเรียบร้อย และมีทีท่าจะต้องโดนคดี ติดคุกไปอีกนาน

 

 

อย่างกรณีของ อั้มกับแยม ที่มีข้อมูลส่งถูกกระจายไปยังเครือข่ายเพื่อนฝูง ทั้งนักการพนัน , นักเล่นคริปโต เต็นท์รถหรูทั้งมือ 1 และ มือ 2 รวมถึงเจ้าของแบรนด์กางเกงยีนส์ที่ขายกางเกงอย่างไรไม่รู้ แต่จากก่อนขายของเล่น ขายของออนไลน์ เวลาผ่านไปไม่กี่ปีกับมีเงินซื้อบ้านหลังเบ้อเริ่ม มีเงินซื้อรถซุปเปอร์คาร์ รถเบนท์ลีย์ ไปรับลูก แต่พูดออกรายการไปเท่านั้น มีคนอินบ็อกซ์เข้ามา แล้วขู่จะฟ้องตนกับรายการสนธิทอล์ค

 

จากนั้นนายสนธิได้เปิดชื่อบุคคลที่มีถูกกล่าวถึงว่า ชื่อแม็ก หรือ แม็กซิม หรือ นายกฤษฏา ปิณฑะเกษตริน เจ้าของกางเกงยีนส์ Hold’em เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีภาพปรากฎร่วมกับ นายอั้ม ซึ่งตอนนี้อยู่ในคุกแล้ว พร้อมแสดงภาพประกอบเพื่อให้เห็นว่า นายแม็ก กับนายอั้ม สนิทสนมกันในระดับพิเศษ แม้แต่การใช้ชีวิตร่วมกันที่บ่อนกาสิโน มาเก๊า เมื่อปี 2561 ขณะที่ สถานะการเงินของนายแม็ก มีความร่ำรวยมาก ถึงขั้นอวดรวย ใช้รถเบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด ราคา 17.5 ล้าน และ ลัมโบร์กีนี อะเวนทาดอร์ เอส 2 คัน ราคากว่า 55 ล้าน และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ G 63 amg พร้อมชุดแต่ง บราบัส อีก 15 ล้าน และ นิสสัน gtr r35 คันละ 10 กว่าล้าน ลั มโบร์กีนี อูรุส 23 ล้าน รวม ๆ 100 กว่าล้านบาทแล้ว ยังไม่นับถึงบ้านหรูอีกหลายหลัง

 

 

โดย นายสนธิ ย้ำว่า แม็กโดยพื้นเพไม่ใช่มีพ่อแม่ร่ำรวย หรือ ธุรกิจใหญ่โต แต่ออกรายการของ นิกกี้ บอกว่าสร้างเนื้อสร้างตัว จนมีทรัพย์สินเป็นพันล้านบาท ซึ่งถ้าเขาทำงานอะไรที่เป็นงานสตาร์ทอัพ หรือทำงานอะไร คิดค้นแล้วไปได้ดิบได้ดี มีคนมาลงทุน มีต่างชาติมาลงทุน ทำให้มูลค่าหุ้นเขาสูงขึ้นเป็นร้อยๆเท่า พันเท่า ผมยังพอรับได้

 

แต่กางเกงยีนส์ Hold’em ออกมาสื่อมานานแล้ว โฆษณาประชาสัมพันธ์ ว่าเป็นกางเกงยีนส์พิเศษไม่ธรรมดา ผลิตรุ่นครั้งละ 88 ตัว ต่อคอลเลคชั่น หาซื้อยาก ราคาสูง ราคาต้นๆหลักพันบาท ถึงหมื่นบาท และยังบอกอีกว่าไม่เน้นยอดขาย เน้นแบรนด์ดิ้งอย่างเดียว ทั้งยังทำ แบรนด์Hold’em เสื้อยืด หมวก สินค้า แอ็กเซสเซอรี่ เพื่อส่งไปขายในประเทศจีน และด้วยไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา ทรัพย์สมบัติ มูลค่านับพันล้านบาท แสดงว่าในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจHold’em ของนายแม็ก ต้องมียอดขายกระฉูด กำไรดีมากๆใช่หรือไม่

ในทางตรงข้าม เมื่อเปิดบัญชีของบริษัท โฮลเดม เดนิม ย้อนหลัง 2560-2564 พบว่ารายได้สูงสุดของบริษัททำกางเกงยีนส์ อยู่ที่ 29 ล้านบาท กำไรสูงสุดเพียง 3,300,000 บาท และพอไปเปิดงบการเงินของ บริษัท โฮลเดม เดนิม มีชื่อนายแม็ก ถือหุ้นใหญ่ถึง 90 % เพราะบริษัทนี้นายแม็ก เป็นกรรมการอยู่คนเดียว ก่อตั้ง 24 เมษายน 2560 อายุบริษัท 5 ปี กับ 9 เดือน ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มูลค่าบริษัท 11,400,000 บาท

 

 

 

 

 

 

โดยปีที่ผ่านมา นายแม็กรายงานงบของบริษัทโฮลเดม ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบว่า บริษัทมีรายได้ 26,321,582 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 3,300,000 บาท เสียภาษี 590,000 บาท มีทรัพย์สินรวม 11,700,000 บาท

“ด้วยตัวเลขรายได้ กำไร และมูลค่าบริษัทของคุณ ผมมองไม่เห็นว่า นายแม็ก ร่ำรวยและมีโอกาสซื้อทรัพย์สมบัติ ทั้งรถหรูราคาดี และบ้านหลังใหญ่ เป็นร้อยๆล้านได้อย่างไร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ก็ในเมื่อคุณทำธุรกิจอยู่เพียงแค่นี้เอง ผมยังคิดว่าคุณยังมีธุรกิจแบบยูนิคอร์น หรือ มีคนมาซื้อแฟรนไชส์ยีนส์คุณอยู่ แต่ไม่มี รวมถึงได้ตรวจสอบบริษัทที่นายแม็กมีอยู่ 5 บริษัท กระจอกงอกง่อยมาก เชื่อว่าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ขายดีๆ ยังมีรายได้มากกว่าบริษัทคุณอีกต่อปี”

 

 

ช่วงท้าย นายสนธิ ระบุชัดเจนว่า การนำเสนอข้อมูลทั้งหมด ไม่ได้เกิดจากการอิจฉาริษยา เพราะตนผ่านเรื่องนี้มาหมดแล้ว จากจุดสูงสุด-ต่ำสุดของผู้คน แต่นายแม็กอย่าลืมเจ้าหน้าที่รัฐ มีหลักฐานว่าคุณสนิทสนมกับนายอั้ม ภูมิพัฒน์ อาชญากรที่ทำผิดกฎหมายหลายข้อ ฟอกเงินหลายอย่างจากธุรกิจสีเทา สีดำ และตนเห็นว่านายแม็กไม่ได้แตกต่างจาก นายอั้ม และ แยม ธมลพรรณ์ ที่ชอบโชว์ออฟโพสต์เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ออกยูทูปบอกความร่ำรวยตัวเอง ว่ามีรถหลายร้อยล้านบาท มีบ้านใหญ่โต มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน

 

 

แต่เมื่อตรวจสอบที่มาที่ไป รายได้ทรัพย์สินแล้ว ไม่สอดคล้องกันเลย ตัวเลขตามหลักบัญชีผิดหมด คุณแม็กจะไปโจมตีชาวบ้านเขาได้ไงว่า มาตั้งคำถามว่าเอาเงินมาจากไหน เขาถามว่าคุณเป็น 1 ในเครือข่ายการฟอกเงินผิดกฎหมายของนายอั้ม ภูมิพัฒน์ หรือไม่ เขาถามแบบนี้

“ผมอยากให้คุณแม็ก เพื่อความแฟร์ ท่านสรรพากร คนที่มีบริษัทรายงานว่ากำไรปี 3 ล้านกว่าบาท บางบริษัทกำไรนิดหน่อย 5 บริษัท แต่มีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ประมาณหลายร้อยล้านบาท และยังมีทรัพย์สินอีกนับเป็นพันล้านบาท เหล่านี้เป็นคำถามที่อธิบดีกรมสรรพากร ต้องถาม ว่านายแม็กซ์เสียภาษีถูกต้อง แต่ ดีเอสไอ กับ ปปง. ต้องถามให้มากกว่านี้ ต้องถามว่า เงินนายแม็กได้มาจากไหน ต้องบอกที่มาที่ไปให้ชัดเจน”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท
"นายกฯ" ลั่นไม่แทรกแซง หลังป.ป.ช.ขอเวชระเบียน "ทักษิณ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น