ปรากฎการณ์ที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตาลีตาเหลือก เร่งรุดลงพื้นที่จ.ราชบุรีในวันอังคารที่ ๑๗ ม.ค.๒๕๖๖ ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่าสมรภูมิเลือกตั้งคงใกล้เข้ามาทุกที กำหนดเส้นตายหมดวาระรัฐบาลหมดงานสภาคือ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ สภากำลังจะปิดสมัยประชุม ๒๘ ก.พ.นี้ แต่ในสภการณ์จริงๆตอนนี้ก็ร่อแร่ ๓ วันหนี ๔ วันล่ม ผู้แทนทยอยลาออกเป็นใบไม้ร่วง เพราะรู้ดีว่าวัน ว. เวลา น. ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะประกาศยุบสภามันงวดเข้ามาทุกขณะ
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งการเมืองก็ยิ่งร้อนแรงขึ้นทุกขณะ กรณีลุงป้อมโดดประชุมครม.บุกเมืองโอ่งไปกินข้าวที่บ้านใหญ่ของ “กำนันตุ้ย” วิวัฒน์-นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา แถมเรียกส.ส.ทั้งจังหวัด และหัวคะแนนท้องถิ่นมากันครบ แบบปัจจุบันทันด่วนดักหน้าก่อนบิ๊กตู่จะไปเปิดงานตรุษจีนในวันนี้ (๑๙ ม.ค.๒๕๖๖) ก็ชัดเจนว่าเป็นการชิงไหวชิงพริบของพี่น้อง ๒ ป. บูรพาพยัคฆ์ ณ สนามเลือกตั้งเมืองโอ่ง อย่าลืมว่าสนามราชบุรีในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒ พปชร.กวาดส.ส.ไป ๓ คน จาก ๕ คน คือเขต ๑ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี เขต ๒ นางบุญยิ่ง เขต ๓ ปารีณา ไกรคุปต์ ส่วนที่เหลืออีก ๒ เขตแบ่งกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยเขต ๔ เป็นของอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส่วนเขต ๕ เป็นของบุญลือ ประเสริฐโสภา อดีตรมช.ศึกษาธิการ อดีตเสมา ๒ ยุคสมัคร สุนทรเวช ต่อมาหลังปารีณาถูกคดีบุกรุกที่ดินต้องพ้นจากการเมืองไป เขต ๓ อ.จอมบึง อ.โพธาราม จึงมีการเลือกตั้งซ่อมใหม่ที่สุดก็ได้ “ส.จ.เส็ง” ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ที่เลือกตั้งจริงแพ้ปารีณาไป ๑.๗ หมื่นคะแนน กลับมาชนะในการเลือกตั้งซ่อมคว้าไป ๔ หมื่นคะแนน ปชป.เลยได้ส.ส.ในราชบุรีไปอีกคน เพราะตอนนั้นพปชร.ไม่ส่งคนลงสมัคร
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งเที่ยวหน้าในเวลาอันใกล้ ๓ เขตที่เป็นของพปชร.ดูจะไม่ใช่ของตายอีกต่อไปแล้ว พูดแบบนี้ไม่ได้ด้อยค่าพปชร.ไม่ได้ดูถูกน้ำยาลุงป้อม ที่ล่าสุดถึงขั้นลาประชุมครม.ย่องไปคุยกับกำนันตุ้ยกล่อมนางบุญยิ่งตะล่อมส.ส.ราชบุรีทั้งจังหวัดแบบเงียบๆ แบบที่ทุกคนเกรงใจต้องตอบคำถามลุงป้อมไปว่า “ยังอยู่กับลุงป้อม”
แถมงานนี้พล.อ.ประวิตรสัญญาใจกับกำนันตุ้ยและนางบุญยิ่งว่า หากบ้านใหญ่สามารถกวาดส.ส.ราชบุรียกจังหวัดได้ ๕ คน จะตบรางวัลให้รัฐมนตรี ๑ ตัว ใช้สูตรเดียวกับตอนรับปากส.ส.ก๊วนปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ของ “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์์ อัศวเหม เจ้าพ่อปากน้ำ แต่รอบนี้ความหวังความฝันของลุงป้อมคงไม่ได้มาโดยง่าย ไอ้ที่คิดนั่งคอหักหลับกลางวันฝันเป็นจริงคงไม่มี เพราะรอบหน้าสนามราชบุรีนั้นดุเดือดจริงๆ ถ้าไม่แรงถ้าไม่หนักลุงป้อมไม่ถ่อสังขารพาร่างกายไปราชบุรีแน่ แต่เพราะหวังสูงมั่นใจมากจึงต้องรีบไปตกปากรับคำกันไว้ก่อน
เที่ยวก่อน ๒ ป.ยังรักกันสนามเลือกตั้งราชบุรีเลยได้ส.ส.มาโดยง่าย แต่รอบนี้ลุงป้อมกับบิ๊กตู่ต่างคนต่างไปเพราะฉะนั้นต่างฝ่ายก็ต้องสู้กันสุดฤทธิ์ ล่าสุดวงในยืนยันรทสช.น่าจะได้มา ๒ คนแล้วในกระเป๋าคือ น.ส.กุลวลี เขต ๑ กับ อัครเดช เขต ๔ โดยเฉพาะน.ส.กุลวลีนั้นถูก “เสี่ยแด๊ก”ธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ สายตึกไทยคู่ฟ้าตามจีบอย่างหนักและคงไปอยู่กับนายกฯแน่ ส่วนตัวนางบุญยิ่งกับส.จ.เส็ง แม้จะยืนกรานว่าจะอยู่กับลุงป้อมจะไปต่อกับพปชร. แต่ก็เป็นการรับปากแบบเสียมิได้ เพราะเอาจริงๆไฟน่อลสุดท้ายต้องรอดูท่าทีของก๊วนสามมิตร ภายใต้การนำของ “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” ก่อนว่าจะเอาอย่างไรจะให้ไปทางไหนน โดยเฉพาะกำนันตุ้ยกับนางบุญยิ่งนั้นสนิทสนมแนบแน่นกับสมศักดิ์เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่เสาร์-อาทิตย์ หากมีเวลาว่างสมศักดิ์ ธนกร ก๊วนสามมิตรจะไปเตะบอลที่สนามราชบุรี เอฟซี เป็นประจำ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงทางแยกสำคัญแบบนี้ ทั้งกลุ่มสามมิตรทั้งตระกูลนิติกาญจนาจึงต้องคิดให้ถี่ถ้วนรอบครอบ ขณะที่ ๒ ป.ก็ห้ามประมาทตาอยู่อย่างภท.ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่เขต ๕ บุญลือคงจับจองพื้นที่ไว้แล้ว แต่ยังมีลุ้นในเขต ๓ ของปารีณาที่ส่งพี่ชายอย่าง สีหเดช ไกรคุปต์ ลงสู้ศึกในนามภท.รักษาฐานของตระกูลไว้เช่นกัน
สนามราชบุรีฝุ่นควันยังไม่ทันจาง พี่น้อง ๒ ป. “ประวิตร-ประยุทธ์” ก็เตรียมสัประยุทธ์ในสนามใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมอีก รอบนี้ขึ้นเหนือไปเมืองปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ๒๐ ม.ค.นี้ ลุงป้อม มีคิวไป ” พิษณุโลก-นครสวรรค์” ฉากหน้าตรวจราชการดูงานแก้ไขปัญหาชาวบ้าน ฉากหลังไปคุมเสียงส.ส.พปชร.ไม่ให้ถูกน้องรักอย่างบิ๊กตู่มาฉกไปได้อีก เพราะ ๓๐ ม.ค.ปลายเดือนนี้บิ๊กตู่ก็มีคิวจะลงพื้นที่พิจิตรกับนครสวรรค์ งานนี้ลุงป้อมกับพปชร.เลยหนาวเข้าหัวใจ อดีตเคยทำเขาไว้มาก รอบนี้เจอรทสช.ใช้ “ยุทธการเจาะไข่แดง” เล็งฐานที่มั่นสำคัญดูพื้นที่มีความหวังไว้หมด อย่างที่รู้นครสวรรค์รอบที่แล้วพปชร.กวาดไป ๔ คน เขต ๑ ภิญโญ นิโรจน์ เขต ๒ วีระกร คำประกอบ เขต ๓ สัญญา นิลสุพรรณ และ เขต ๖ นิโรธ สุนทรเลขา ส่วนที่เหลืออีก ๒ เขต แบ่งให้พรรคอื่น คือเขต ๔ มานพ ศรีผึ้ง จากภท. และ เขต ๕ ทายาท เกียรติชูศักดิ์ ฝ่ายพท. แต่ปัจจุบันเขตที่ทำให้ลุงป้อมร้อนใจ แกนนำพปชร.นอนไม่หลับก็คือเขต ๓ สัญญา กับ เขต ๖ นิโรธ ที่มีข่าวว่าจะย้ายตามบิ๊กตู่ไปรทสช. อย่าลืมว่าตัวประธานวิปรัฐบาลอย่างนิโรธถูกมองว่าเป็นเด็กบิ๊กตู่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อดีตตอนสภาล่มมีปัญหาการทำงานของส.ส.ในสภา บรรดาส.ส.พปชร.สายลุงป้อมก็เคยออกมาอัดนิโรธว่า “ไม่แข็ง” ทำงานไม่เป็นมาหลายรอบแล้ว ส่วนหนึ่งที่นิโรธทำงานได้ไม่เต็มไม่เต็มหน่วยก็เพราะถูกวางยาจากคนในพปชร.นั้นแหละ
ด้านพปชร.ที่เหลืออีก ๒ คนนั้น วีระกรก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีลุงป้อมไปซบไออุ่น “เสี่ยหนู-ครูใหญ่เน” แล้ว เพราะกระแสดีกว่า เงินถึงกว่า ที่สำคัญเข้าใกล้แกนนำพรรคพูดคุยกับหัวหน้าได้มากกว่าพรรคทหารจ๋าของลุงป้อม ที่จะเจอลุงป้อมทีก็แสนยาก นัดลำบาก เข้าพบต้องเซ็นชื่อแลกบัตรอีก สรุปไปๆมาๆ พปชร.ที่เคยมี ๔ คน จากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว รอบนี้อาจเหลือเขต ๑ แค่ภิญโญคนเดียวที่ยังอยู่กับลุงป้อม ดูทรงแล้วสนามเมืองปากน้ำโพก็คล้ายๆสนามเมืองโอ่ง ลุงป้อมกับพปชร.เตรียมทำใจเสียเก้าอี้หลายตัวให้บิ๊กตู่กับรทสช.ได้เลย ส่วนผลจะออกมายังไงอีกไม่นานคงได้รู้กัน จากนี้ไปเชื่อว่ายังมีอีกหลายเขต หลายสนามเลือกตั้งที่ลุงป้อมกับบิ๊กตู่ ต้องดักหน้าดักหลังงัดกันแบบนี้ เพราะการเมืองฐานเดียวกันก็ต้องสู้กันไปแบบนี้แหละ
///////////////////