“ดร.นิว” เดือด เปิดผลตอบแทนดาวเทียมไทยคม 4.95 หมื่นล้าน แต่กสทช.กลับประมูลแค่หลักร้อยล้าน

"ดร.นิว" เดือด เปิดผลตอบแทนดาวเทียมไทยคม 4.95 หมื่นล้าน แต่กสทช.กลับประมูลแค่หลักร้อยล้าน

หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้จัดให้มีการประมูลใบอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) ครั้งแรกของประเทศไทย โดยประมูลทั้งสิ้น 5 ชุด ไปเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และบรรดานักวิชาการ คนดังที่เรียกร้องเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ว่าต้องหยุดประมูลดาวเทียม และได้ยื่นฟ้องกสทช.เป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุดนายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan โดยมีเนื้อหาถึงประเด็นนี้ ระบุว่า คนไทยทั้งประเทศยอมรับกันได้จริง ๆ หรือครับ?

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข้อมูลจากหลักทรัพย์กสิกรไทยวิเคราะห์ว่า “เราเชื่อว่าผลตอบแทนของไทยคม 9 จะดีกว่าไทยคม 4 ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมามาก” สอดคล้องกับข้อมูลที่ผมได้ออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับดาวเทียมไทยคม 9

ดาวเทียมไทยคม 9 (TCSTAR-1) จะถูกยิงขึ้นสู่วงโคจร 119.5E ราวเดือนธันวาคม 2566 โดยจะเป็นดาวเทียมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงดวงใหม่ ซึ่งจะมาแทนที่ดาวเทียมไทยคม 4 (IPSTAR-1)

เมื่อประเมินรายได้ขั้นต่ำของดาวเทียมไทยคม 9 จากรายได้ดาวเทียมไทยคม 4 ที่เคยปรากฏในสื่อต่างชาติ 100 MUSD อายุการใช้งาน 15 ปี (1 USD = 33 THB) ก็จะเป็นเงินราว 4.95 หมื่นล้านบาท

ดาวเทียมไทยคม 9 ดวงเดียวในวงโคจร 119.5E นี้ จะมีรายได้ขั้นต่ำ ๆ ถึงหลายหมื่นล้านบาทโดยที่ยังไม่รวม 120E แต่วงโคจรสำคัญสองวงนี้ ถูกจัดชุดประมูลในราคาประมูลเพียงแค่ 417 ล้านบาทเท่านั้น

ดังนั้น ข้อมูลจากหลักทรัพย์กสิกรไทยจึงตอกย้ำการกระทำของ กสทช. ที่เปิดการประมูลสมบัติของชาติเอื้อบริษัทเอกชนในราคาถูก จนมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทเหลือเพียงแค่ไม่กี่ร้อยล้านบาทเท่านั้น

การประมูลสิทธิวงโคจรดาวเทียมของ กสทช. ในวันที่ 15 มกราคม 2566 จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนตามมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างร้ายแรง

แม้ กสทช. มักชอบอ้างว่าเปิดประมูลเพื่อรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม แต่ในความเป็นจริง การรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมสามารถทำได้หลายแนวทาง โดยไม่จำเป็นต้องประมูล

รัฐสามารถดำเนินการเองทั้งหมด, รัฐสามารถจ้างบริษัทเอกชนดูแลดาวเทียม หรือจะตั้งรัฐวิสาหกิจ แล้วให้รัฐถือหุ้นเกินกึ่งหนึ่งก็ย่อมได้ ล้วนแต่เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์มหาศาลต่อประชาชนทั้งสิ้น

การ #ทวงคืนดาวเทียม ที่เป็นสมบัติของชาติให้กลับมาเป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชนได้สำเร็จ จะเป็นรูปธรรมของการสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง

อ้างอิง…https://www.kasikornsecurities

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น