วัดพลัง 2 ขุนพลคู่ใจเงาใต้ปีก “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”

บทบาทของเสธ.อ้นช่วงเลือกตั้ง 2562 ได้เข้ามาช่วยพรรคพลังประชารัฐรับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งในระหว่างนั้นกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น ขัดแย้งกับกลุ่มปากน้ำของตระกูลอัศวเหม อย่างหนัก ก็ได้ฝีมือของ “เสธ.อ้น” เข้าไปเคลียร์ปัญหาจนจบลงด้วยดี

นอกจากนี้ เสธ.อ้นเชี่ยวชาญในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้บางส่วนนั้น ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของรวมไทยสร้างชาติที่ยึดเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้เกิน 25 ที่นั่ง ดังนั้นการเข้ามาช่วยงานของเสธ.อ้นน่าจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์วางใจได้ ขณะเดียวกันนอกจากเสธ.อ้นแล้วยังมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิมาลัย มาแตะมือช่วยกันทำงานอีกทางหนึ่ง

ข้ามมาที่ฝั่งขุนพลคู่ใจของ พล.อ.ประวิตร จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก พล.อ.นพดล อินทปัญญา หรือ “บิ๊กกี่” สมาชิกวุฒิสภา เป็นมือไม้จัดการงานการเมืองในทุก ๆ ด้านโดย “บิ๊กกี่” จบเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของพล.อ.ประวิตร เคยดำรงตำแหน่งสำคัญผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.)

ส่วนสายสัมพันธ์กับ “บิ๊กป้อม” ต้องบอกว่าแนบแน่นถึงที่สุด เพราะครั้งหนึ่งบิ๊กป้อมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า บิ๊กกี่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดใน ส.ว. 250 คน โดยชื่อ “บิ๊กกี่” เริ่มมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งขณะนั้นมี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือ “บิ๊กเหวียง” เป็นรมว.กลาโหม ส่วน “บิ๊กป้อม” ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. โดยบิ๊กกี่ถูกเรียกตัวมาช่วยงานในฐานะหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม จึงทำให้มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับนักการเมืองค่ายชินวัตร โดยเฉพาะคุณหญิงหน่อยสุดารัตน์ เกยุราพันธ์

ไม่เพียงเท่านี้ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เข้าสู่สนามการเมืองหลังการเปลี่ยนผ่านของรัฐบาล คสช.นั้น “บิ๊กกี่” เป็นกำลังสำคัญในการสร้างพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ต้น โดยเดินงานการเมืองทุกรูปแบบทั้งการวางเยุทธศาสตร์ และแผนงานใต้ดินบนดิน

“บิ๊กกี่” ยังมีคอนเนคชั่นการเมืองไม่ธรรมดา ด้วยสไตล์การทำงานแบบ ใจถึง พึ่งได้ ใครขออะไรมาจัดให้เต็ม จึงทำให้ประสานได้สิบทิศเข้าถึงเส้นสายการเมืองได้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝั่งตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นสีเหลืองหรือแดง และยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และเนวิน ชิดชอบ