นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT ไม่ชำระหนี้ตามสัญญาและให้การต่อศาลปกครอง อ้างการทำสัญญาจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส มิชอบ ว่า หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลเรื่องดังกล่าว บนเวบไซต์ของ KT มีข้อความปฏิเสธ และยื่นเรื่องต่อศาลในการสู้คดี มีการนำประเด็นสู้คดี เป็นเรื่องกฎหมายพ.ร.บ.ร่วมทุน อ้างว่า KT เป็นเอกชน ศาลปกครอง ไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดี เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างเอกชนต่อเอกชน
นายชาญชัย ระบุว่า เรื่องนี้ ตนเคยสอบสวนอยู่เมื่อประมาณปี 51-52 และปี 59 ตอนอยู่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จำได้ว่า ได้เชิญกฤษฎีกาเข้ามาชี้แจงเรื่องการต่อสัญญากับบีทีเอส ซึ่งกฤษฎีกาได้นำเอกสารมายื่นให้ดูว่า มีการวินิจฉัยไปแล้ว เรื่องดังกล่าวนี้
หนึ่ง ไม่ได้เป็นไปตามที่กทม.พูด กทม.ได้เสนอเรื่องไปให้กฤษฎีกา เพื่อวินิจฉัยว่า ประเด็นเกี่ยวกับพ.ร.บ.ร่วมทุน เข้าหรือไม่ ซึ่งกฤษฎีกาสรุปให้ฟังง่ายว่า “เรื่องนี้เป็นการจ้างมาบริการเดินรถเฉยๆ ไม่ได้ลงทุน ไม่ต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.ร่วมทุน”
และเรื่องที่สอง ที่ตกใจ ก็คือ กทม.อ้างว่า บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นเอกชน ในคำวินิจฉัย กฤษฎีกาบอกว่า KT เป็นรัฐวิสาหกิจท้องถิ่น กทม.ถือหุ้น 99.98% พูดง่ายๆ ก็เป็นบริษัทลูกในนามกทม. ถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ มีอำนาจในการวินิจฉัย รวมทั้งศาลปกครอง ก็วินิจฉัยเรื่องดังกล่าวไว้ด้วย ที่ตกใจคือ เรื่องเกิดขึ้นทั้งที่กทม. รู้อยู่แล้ว ว่า เรื่องนี้ถูกวินิจฉัยและศาลมีคำพิพากษาในคดีแรกออกมา เค้ากล้าเอาเรื่องนี้ขึ้นมาในการต่อสู้ครั้งที่ 2 ผมงงมาก ว่าทำไมเค้าถึงกล้าทำ ซึ่งจากที่เคยตรวจสอบเรื่องพวกนี้มาตลอด คุณทำไปแพ้ ทำไปแล้วเจอคำพิพากษาที่วางไว้เป็นฐาน ศึกษากันอย่างไรถึงออกมาเป็นแบบนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่ตกใจว่าทำไมกทม.สู้แบบนี้ และใครเป็นกุนซือให้ทำเรื่องแบบนี้