นักวิจัยนิวซีแลนด์หารือ ปรับ "เวลาเรียน" เข้าเรียนให้ช้าลง เพื่อให้วัยรุ่นได้พักผ่อนมากขึ้น หลังงานวิจัยชี้ ส่งผลดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ในหลายด้าน รวมถึงความสำเร็จในการเรียนด้วย
ข่าวที่น่าสนใจ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มกราคที่ผ่านมา คณะนักวิจัยของนิวซีแลนด์กำลังหารือเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับเลื่อนเวลาเข้าเรียนให้ช้าลง เพื่อช่วยแก้ปัญหาการนอนหลับของวัยรุ่น
บทความคิดเห็นในวารสารการแพทย์นิวซีแลนด์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า เวลาเริ่มเรียนที่ช้าลง อาจช่วยให้วัยรุ่นในนิวซีแลนด์พักผ่อนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของวัยรุ่น
บทความดังกล่าวเขียนโดยคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอทาโก้ มหาวิทยาลัยแมสซีย์ และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ซึ่งระบุว่า วัยรุ่นจำนวนมากในนิวซีแลนด์พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจาก เวลาเริ่มเรียนบีบบังคับให้พวกเขาต้องตื่นนอนเร็วกว่าเวลาที่ควรจะเป็น
โดยคณะนักวิจัยชี้ว่า ตามหลักชีววิทยาการนอนหลับตามธรรมชาติ ปกติแล้วเมื่อเข้าสู่วัยแรกรุ่น ช่วงเวลาการพักผ่อนจะดึกขึ้น ซึ่งหมายความว่าโดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจำเป็นต้องตื่นนอนสายกว่าเดิมในตอนเช้า และจะไม่เปลี่ยนแปลงอีกจนกว่าจะอายุประมาณ 21 ปี
หากปรับเวลาเริ่มเรียนให้ช้าลง เช่น หลังเวลา 09.45 น. ทุกวันสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย จะเป็นวิธีที่ดึงดูดใจและไม่มีข้อเสียสำหรับการแก้ไขปัญหาการนอนหลับของวัยรุ่น
นอกจากนี้ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การพักผ่อนที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มส่งผลดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของวัยรุ่นในหลายด้าน รวมถึงความสำเร็จในการเรียน ทั้งมีงานวิจัยมากมายจากทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สนับสนุนทฤษฎีดังกล่าว
อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยตระหนักดีว่าการเริ่มเรียนที่ช้าลงของนักเรียนม.ปลายจะส่งผลกระทบต่อผู้คนและองค์กรจำนวนมากในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงว่าสิ่งใดอาจช่วยหรือเป็นอุปสรรคต่อโรงเรียนในการพิจารณาเปลี่ยนเวลาเริ่มเรียนให้ช้าลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง