คาเฟ่น้องสุนัข ยื้อไม่ไหวหลังเจอพิษโควิด ต้องแบกภาระขาดทุนนานนับปี

พิษโควิดทำทรุดหนัก! ร้านคาเฟ่สัตว์เลี้ยงแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ต้องยอมปิดกิจการลง พร้อมประกาศหาผู้ใจบุญรับสุนัขไปเลี้ยงต่อ

หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก “Smile Dog Cafe คาเฟ่หมาเชียงใหม่”  ได้โพสต์ข้อความเมื่อเที่ยงวานนี้ (2 สิงหาคม 64) ข้อความว่า  “พวกเราจบแล้ว ในที่สุดสิ่งที่พวกเรากลัวที่สุดและไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นกับพวกเราจนได้!!  เราไปต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ เนื่องจากร้านของเราได้รับผลกระทบจากโควิด 19 เป็นอย่างมาก  สะสมมานานเป็นเวลาปีกว่าและไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าไหร่ เราไม่สามารถดำเนินกิจการได้อีกต่อไป เพราะการเลี้ยงน้องหมามีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมหาศาล ที่ผ่านมาให้มองย้อนไปเราไม่เคยเสียใจและเสียดายเลยสักครั้ง เราทำทุกอย่างทุ่มเททุกอย่างหมดทั้งหัวใจเรามีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นลูกค้ามีความสุขมาหาน้องหมา มาเล่นกับน้องๆ มีความประทับใจกลับไป ทำให้เรามีลูกค้าประจำอย่างแน่นแฟ้น   ในเวลานี้อยากให้ทุกคนเข้าใจ นี่เป็นหนทางเดียวที่ทุกชีวิตจะอยู่รอดจริงๆ อยากให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราต่อไป อย่ามีดราม่าต่อพวกเราเลย  หากพี่ๆท่านใดอยากมาอำลาน้องๆ ร้านของเราจะเปิดถึงสิ้นเดือนนี้เพื่อให้ทุกคนได้มาบอกลาน้องๆเป็นครั้งสุดท้าย  และในวันนี้เป็นต้นไปทางร้านจำเป็นต้องหาบ้านใหม่ให้น้องๆบางตัว ขอคนที่รักและสนใจน้องจริงๆ สามารถเลี้ยงน้องได้ไปตลอดชีวิต  โดยให้มาดูน้องและมารับน้องที่ร้านเท่านั้น อยากให้มาศึกษาลักษณะนิสัยของน้องด้วยตัวเอง ว่าคุณจะเหมาะกับน้องตัวไหน มีเวลาตั้งแต่บัดนี้ จนถึงสิ้นเดือนนี้!!!  น้องหมามี 28 ตัว”

ล่าสุด (3 สิงหาคม 64) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้าน Smile Dog Cafe ตั้งอยู่ย่านตำบลสันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พบว่ามีผู้ที่สนใจเดินทางมาที่ร้านเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเข้าไปเล่นกับสุนัขในคาเฟ่ ทั้ง 28 ตัว ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าชอบสุนัขตัวไหน  และเขียนใบเงื่อนไขการรับอุปการะน้องหมา ยื่นให้กับทางร้านไว้ก่อน โดยทางคาเฟ่มีสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ชิวาว่า  ปอมเมอริเนียน คัชชุน ชิสุห์ทอย เฟร้นบลูด็อก และไซบีเรียนฮัสกี้ ซึ่งนิสัยน่ารักชอบเล่นกับผู้คน

นางสาววรรณลักษณ์ บุญศรีโรจน์ เจ้าของ Smile Dog Café เปิดเผยว่า  ช่วงที่เจอสถานการณ์โควิด-19 แต่ละระลอกที่ผ่านมานั้น ครั้งแรกคิดว่าขาดทุนไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการดูแลลูกๆ ก็มีค่าใช้จ่ายเดือนละกว่า 5-6 หมื่นบาท เมื่อนานไปไม่มีรายได้เข้ามา มีแต่รายจ่ายเรื่อยๆ ทำให้ต้องนำเงินสะสมออกมาใช้ในธุรกิจ กระทั่งถึงปัจจุบันไม่ไหวแล้ว จึงตัดสินใจหยุดกิจการ เพราะยื้อต่อไปไม่ไหวจริงๆ เพราะการเลี้ยงสุนัขมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และจากการที่ทางเพจของร้านได้ประกาศออกไป เพื่อขอผู้อุปการะสุนัขของร้านนั้น ก็ได้รับความสนใจจากผู้คน เพียงข้ามคืนมีจำนวนมากกว่า 1,000 คน เดินทางมาแสดงความประสงค์ ซึ่งตนตั้งใจจะปล่อยน้องหมาไป 18 ตัว จากน้องหมาทั้งหมด 28 ตัว ส่วน 10 ตัวที่เหลือนั้น ตนจะนำไปเลี้ยงดูเอง เนื่องจากตนอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรซึ่งไม่สามารถเลี้ยงดูได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ทางร้านได้ ตั้งเงื่อนไข 6 ข้อ  คือ 1.ต้องมีจิตใจที่รักน้องหมาเป็นอย่างมากเลี้ยงน้องได้ตลอดชีวิต 2.มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง บ้านมีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่ให้น้องได้วิ่งเล่น อย่างไม่ลำบาก 3.ไม่ให้กับฟาร์มและไปทำพันธุ์ต่อเด็ดขาด 4.มีเงินซัพพอร์ตน้อง ในเรื่องการเลี้ยงดูหลักๆ เช่น อาหาร วัคซีน แผ่นฉี่ ยามน้องเจ็บป่วย และอื่นๆ (ข้อนี้สำคัญมาก หากใครไม่พร้อมอย่าเอาน้องไปเป็นภาระให้ลำบากเลย) 5.ต้องส่งความเคลื่อนไหว ความเป็นอยู่ให้กับทางเราทุกเดือน จนครบ 6 เดือน  6.ทุกคนต้องวางเงินมัดจำค่าตัวน้อง ตามที่ร้านกำหนดแต่ละตัว หากทำตามกติกาได้ ครบ 6 เดือน จะคืนเงินให้ทั้งหมดทันที

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น