วันนี้(25 ม.ค.66) ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ ข้อกังขาของป้ายราคา 33 ล้านบาท ชี้ให้เราเห็นว่าแม้โครงการขนาดเล็กก็อาจมีเงินรั่วไหล แล้วโครงการขนาดใหญ่ซึ่งยากที่จะตรวจสอบจะไม่มีเงินรั่วไหลหรือ ?
บทเรียนที่เราได้รับจากการเปลี่ยนชื่อป้าย “สถานีกลางบางซื่อ” เป็น “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” มีดังนี้
1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ควรขอพระราชทานชื่อสถานีกลางบางซื่อซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางของประเทศไทยและเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนก่อนดำเนินการก่อสร้าง เพื่อลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน เช่นเดียวกับ “สนามบินหนองงูเห่า” ซึ่งเป็นชื่อที่พวกเราเรียกขานกัน หรือ “ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (New Bangkok International Airport : NBIA)” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้สื่อสารตอนเริ่มดำเนินโครงการก่อนได้รับพระราชทานชื่อ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 ก่อนเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร
2. แม้ว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ได้ชี้ชัดว่าการเปลี่ยนป้ายชื่อมีราคาแพง แต่เป็นที่น่าสังเกตได้ว่าถ้าราคาไม่แพง คณะกรรมการฯ คงไม่เสนอแนะให้ทบทวนราคากลาง และวิธีการประมูล ซึ่งผมเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ