ตร.เร่งประสาน”ดาราไต้หวัน” ขอข้อมูลเพิ่ม ปมอ้างถูกรีดเงิน ยันหากผิดฟันไม่เลี้ยง

ตร.ประสานนักแสดงไต้หวัน ขอข้อมูลเพิ่มเติมปมอ้างถูกตำรวจรีดเงิน 2.7 หมื่น ยันหากผิดฟันไม่เลี้ยง

เรียกได้ว่า ไม่มีแผ่วเลย เรื่องร้อน ๆ ในวงการสีกากีไทยมาอีกแล้ว เรื่องฉาวข้ามประเทศรอบนี้ เป็นเรื่องของดาราไต้หวัน ที่มาเที่ยวไทยช่วงปีใหม่ แต่กลับถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ทราบสังกัด เรียกตรวจค้นกระเป๋า และรีดไถเงินนับหมื่น จนเธอถึงกับต้องบอกว่า “จะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก” และปรากฏเป็นข่าวในสื่อของไต้หวันหลายช่องด้วย

อันยู๋ชิง 安于晴 หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ดารานักแสดงชาวไต้หวัน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สื่อบ้านเขาฟังว่า หลังจากนำเรื่องราวไปโพสต์ลงอินสตาแกรม จนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวัน เมื่อช่วงต้นมกราคมที่ผ่านมา โดยสรุป เธอบอกว่า ก่อนกลับไต้หวัน 1 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กับเพื่อน ๆ เพื่อกลับโรงแรม ตอนนั้นสักราวตี 1 กว่า ๆ ตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุด และขอค้นตัว ค้นกระเป๋า เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดู และบอกว่าได้ขอวีซ่า VOA เข้ามา (VOA คือวีซ่าที่ขอที่สนามบินเมื่อมาถึงไทย เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่เเล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า ไม่ยอมรับวีซา VOA ต้องใช้เป็นวีซาจริง ๆ ที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น คือยังไงก็จะพยายามหาข้อหายัดใส่ให้ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดาราสาว ให้ข้อมูลต่อไปว่า คนในกลุ่มเธอได้มีการอัดคลิป เพื่อเป็นหลักฐานและเพื่อป้องกันตัว แต่ถูกเจ้าหน้าบอกให้ลบคลิป ยื้อไปมาเจรจาตกลงกัน เธอแทบอ้อนวอนให้ปล่อยเธอไป เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอกลัวมาก บอกว่าตอนนั้นราวกลับในหนังเมกซิกัน ที่จับค้นค้ายาอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอไม่ใช่ เธอเป็นนักท่องเที่ยว เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน แทบจะกราบ เธอบอกพยายามพูดภาษาไทยนิด ๆ พูดว่าขอโทษ ขอร้อง เเต่ไม่เป็นผล เธอทำทุกอย่าง เหลือเพียงแต่คุกเข่าไหว้แค่นั้น

สุดท้ายยื้ออยู่ราว 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พาเธอไปที่ลับตาคน เเล้วบอกว่า “ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย” พอเธอยอมจ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเเท็กซี่ให้พวกเธอกลับโรงแรม เธอยังเล่าต่อว่า ข้างหลังเธอยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง 5 คน ที่โดนอย่างเธอ ไม่แน่ใจว่ากลุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเธอเรียกพวกนี้ว่า 黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง หมายถึง ตำรวจเลว จ้องจะจับแต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเอเชียหรือไม่ เธอยังกล่าวต่อว่า “ไม่คิดเลยว่า ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทย หวังเจอประสบการณ์ดี ๆ แต่กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้าย และน่ากลัวที่สุดในชีวิต และฉันจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก อยากเตือนคนไต้หวันว่า จะไปไทยให้ระวัง อย่าพกเงินสดติดตัวในกระเป๋าเยอะ เพราะอาจโดนสุ่มค้นตัว ยัดข้อหา ให้ระวังดี ๆ หรือเพราะพวกเขาขาดรายได้จากการท่องเที่ยวมานานช่วงโควิด พอเปิดประเทศทีกลายเป็นมีแต่ปัญหาแบบนี้” ทั้งนี้ สื่อได้มีการสัมภาษณ์ไกด์ท้องถิ่นในไทย ได้รับคำตอบว่า “นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเอง ดวงไม่ดี ก็อาจเจออะไรแบบนี้ มาขอค้นตัว ค้นกระเป๋าอ้างนั่นนี่ จริง ๆ ถ้าไม่อยากมีปัญหา ให้รีบยัดเงินก่อนไปเลย อารมณ์ค่าผ่านทาง” ก่อนกลับ เธอก็ลงไอจีทิ้งท้ายไว้ว่า “ลาก่อน กรุงเทพห่วยๆ!!” พร้อมไอคอนมองบน

 

ล่าสุด วันนี้ ( 26 ม.ค.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย กรณีดารานักแสดงชาวไต้หวัน (อันยู๋ชิง) หรือ Charlene An อ้างว่า ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า20,000 ถึงยอมปล่อยตัว ว่า เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงสาวคนดังกล่าว และมีข้อมูลว่าเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เดินทางออกในวันที่ 5 มกราคม 2566 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการเช็คอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ ขณะโดยสารด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้คนขับเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และได้ประสานที่พักตรวจสอบว่า นักแสดงสาวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่

รวมทั้งประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร และสน. ทองหล่อ ซึ่งมีการตั้งด่านทั้งความมั่นคงและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อให้ตรวจสอบว่า มีการตั้งด่านในช่วงเวลาที่นักแสดงสาวดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยในพื้นที่ใดบ้าง โดยเน้นไปจุดที่มีคนต่างชาติพักอาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดต่อไปยังนักแสดงคนดังกล่าวแล้ว โดยช่องทางผ่านInstagram และ Facebook
เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกมิติ เบื้องต้นพบว่าเป็นการเช็คอินหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดตั้งแต่ช่วงปีใหม่ แต่เพิ่งมีประเด็นในช่วงนี้ติดต่อกันเป็นการทำงานทำลายภาพลักษณ์ตำรวจหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่มีการโพสต์ลงในโซเชียล ฯ จะไม่บอกว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเมื่อเขากลับไปแล้วก็มีการเช็คอินอีกรอบว่า อยู่ที่นี่ที่นั่นจะต้องตรวจสอบ และหากพบว่าใครผิดก็ต้องดำเนินการอาญาและวินัย ส่วนเป็นการดิสเครดิตตำรวจหรือไม่ขอให้เป็นดุลยพินิจของประชาชนและสื่อมวลชนเอง ตำรวจบอกได้อย่างเดียวว่าไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นวันไหนก็จะต้องตรวจสอบ ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีอื่นๆอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น