วันนี้ นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่มวลชนชุมนุมหน้าศาลอาญา รัชดา เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยนายเวหา แสนชนชนะศึก ผู้ต้องหาในคดี 112 และผู้ต้องหาคดีขโมยเงินกฐินวัด ซึ่งอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว ได้ตัดกำไลEMว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบการติดกำไล EM ของผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว เมื่อทำการตรวจสอบระบบก็ยังปรากฏสัญญาณอยู่ จึงได้มีการเข้าไปตรวจสอบกับบุคคลดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนถึงสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อตรวจสอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
ก็พบว่าที่ข้อเท้าของชายคนดังกล่าว ยังมีกำไล EM ติดอยู่ เนื่องจากบุคคลดังกล่าวนั้นติดกำไล EM ที่เท้าขวา แต่ช่วงที่มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บริเวณหน้าศาลนั้น บุคคลดังกล่าวตัดกำไลที่ข้อเท้าซ้าย และดูจากภาพจะพบว่าเป็นกำไล EM ที่ติดโดยสก็อตเทปสีดำติดอีกที ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากำไล EMที่ถูกตัดออกข้อเท้าซ้ายนั้น ไปนำมาจากไหน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่กำไล EM ที่ติดตามเงื่อนไขของศาล และตอนนี้ชายคนดังกล่าวยังไม่ได้มีการทำลายกำไล EM ของศาลตามที่ปรากฏในภาพข่าวของสื่อต่างๆ ส่วนกำไล EM ที่นำมาตัดนั้น จะนำมาจากไหนอย่างไร ก็คงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะได้มีการตรวจสอบต่อไป
ด้านนายเวหา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Wayha Sky ระบุว่า ขออนุญาตแจ้งเรื่องเวหาตัดEM นะครับ วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ศาล ตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่ศูนย์ EM ได้มาพบและตรวจสอบอุปกรณ์แล้ว และตอนนี้ก็ยังใส่ EM อยู่ และมีเงื่อนไขเดิมทุกประการ การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการตัด EM เมื่อวานนี้ก็อาจจะมีโทษ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำรายงานข้อเท็จจริงและเสนอต่อศาล ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งหรือแจ้งข้อหาใดๆ คนที่ห่วงผมก็ไม่ต้องกังวลนะครับ ส่วนคนที่รอสมน้ำหน้าก็รอไปก่อน เนื่องจากโดยปกติผู้ตายเป็นคนกวนตีน และไม่ได้กลัวอะไร ทุกอย่างผ่านการคิด วางแผน และเตรียมการมาอย่างดีแล้ว หากจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ พร้อมรับอยู่แล้ว ส่วนผลการประกันตัวหนุ่มๆชาวแก๊สทั้ง 7 คนวันนี้ ศาลก็ยังคงยกคำร้องทั้งหมดครับ นั่นหมายความว่า ศาลไม่รับข้อเสนอใดๆที่พวกเราทำกันมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่เราควรคิดกันต่อว่าเราจะเอายังไง ส่วนตัวไม่รู้จะทำไงครับ ถ้าใครมีไอเดียดีๆ ที่ทำแล้วเป็นไปได้ ลองทำกันต่อนะครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง