สิทธิ "บัตรทอง" บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ค้นหายีนกลายพันธุ์ BRCA1/BRCA2 ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป เช็คเงื่อนไขได้ที่นี่
ข่าวที่น่าสนใจ
สปสช. แจงแนวทางให้บริการสิทธิประโยชน์ใหม่ “บัตรทอง” 30 บาท ตรวจคัดกรอง เพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านม BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีน
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมของญาติสายตรงที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์
- ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต จากโรคร้ายให้กับประชาชนไทย
โดยผู้ที่ได้รับบริการ คือ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมตามเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง (ขณะนี้ให้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิ “บัตรทอง” 30 บาทเท่านั้น)โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านม
- เมื่ออายุไม่เกิน 45 ปี
2. ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมที่อายุ 46-50 ปี
- ร่วมกับมีประวัติเคยเป็นโรคมะเร็งซ้ำหลายครั้ง
- หรือมีญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ บุตรของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม) อย่างน้อย 1 คน ที่มีประวัติโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
3. ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมเมื่ออายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี ร่วมกับข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- มีประวัติญาติสายตรงอย่างน้อย 1 คน ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมที่ได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุไม่เกิน 50 ปี หรือมะเร็งเต้านมในผู้ชาย หรือ มะเร็งรังไข่ หรือ มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
- มีประวัติผู้ป่วยในครอบครัวอย่างน้อย 3 คนที่เป็นมะเร็งเต้านม
- มีประวัติในครอบครัวสายตรงอย่างน้อย 2 คนที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก
4. ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทุกช่วงอายุ
- ที่เป็นมะเร็งเต้านมแบบ triple negative หรือเป็นมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
ทั้งนี้ หากผลการตรวจคัดกรองยีนในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความเสี่ยงสูง พบว่ามีการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านมชนิด BRCA1/BRCA2 แล้ว ญาติสายตรงซึ่ง ได้แก่
- พ่อ แม่
- พี่ น้อง หรือ บุตร
ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม จะได้รับการติดตามให้มาตรวจคัดกรอง เพื่อค้นหาการเเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านมให้กับญาติสายตรงฯ ต่อไป
ในการรับบริการตามสิทธิประโยชน์นี้ แพทย์จะเป็นผู้ที่วินิจฉัยผู้ป่วยและประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงเพื่อเข้ารับบริการตรวจ ซึ่งผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่เข้าเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงตามหลักเกณฑ์ 4 ข้อข้างต้น แพทย์จะเป็นผู้ที่วินิจฉัยและประเมิน เพื่อเข้ารับบริการตรวจตามสิทธิประโยชน์ หรือผู้ป่วยสามารถสอบถามจากแพทย์ที่รักษาท่านเพื่อให้วินิจฉัยว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่
โดยการวินิจฉัยและประเมินนี้เป็นไปตามแนวปฏิบัติ (Guideline) การตรวจยีน BRCA1/BRCA2 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและญาติสายตรงฯ ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับหน่วยบริการแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. หน่วยที่ให้บริการเก็บตัวอย่าง จำนวน 69 แห่ง
- ทำหน้าที่ให้บริการประเมินความเสี่ยงทางพันธุกรรม
- บริการให้คำปรึกษาก่อนและหลังการส่งตรวจทางพันธุกรรม
- บริการเก็บตัวอย่างและจัดส่งตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ
- และมีศักยภาพให้บริการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ
2. หน่วยที่ให้บริการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 จำนวน 7 แห่ง
- มีทั้งหน่วยบริการภาครัฐหรือภาคเอกชน ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO15189 ในรายการทดสอบ BRCA1/2 หรือ
- ได้รับการรับรองมาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ที่ผ่านมา สปสช.ได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายบริการสาขาโรคมะเร็งระดับเขต กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดเครือข่ายระบบบริการ การขับเคลื่อนการตรวจคัดกรองฯ พร้อมจัดระบบการส่งต่อการตรวจไปยังหน่วยบริการที่มีศักยภาพในการตรวจยีน BRCA1/BRCA2 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงบริการ
สถานการณ์ประเทศไทย มะเร็งเต้านมถือเป็นมะเร็งในผู้หญิงที่มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับ 1 โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (2020) ระบุ
- พบความชุกของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมของหญิงไทยที่ 213.32 คนต่อ 100,000 คน
- สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งผู้ที่มียีน BRCA1/BRCA2 มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึงร้อยละ 80
- ดังนั้น สิทธิประโยชน์บริการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยค้นหาผู้ที่มีความเสี่ยง ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมได้
ข้อมูล : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง