จากกรณีนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฏร ประกาศบนเวทีชุมนุมม็อบ 3 นิ้ว ที่สกายวอล์ก หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยบอกว่าได้รับโทรศัพท์จากแกนนำพรรคเพื่อไทยระดับสูงสุด ว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะออกแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้ของ ตะวัน และ แบม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคก้าวไกลและพรรคเสรีรวมไทย ที่ขั้นต่ำคือแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 และขั้นสูงสุดคือยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งคล้อยหลังไม่นาน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ก็ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 2 ข้อกดดันรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม ให้รับฟังความเห็นข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และให้ศาลยึดมั่นในหลักความเป็นอิสระของผู้พิพากษา รวมทั้งต้องให้สิทธิประกันตัวของผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีการเมืองอย่างเป็นธรรม เคารพหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ พูดง่ายๆข้อก็คือ ไม่ว่าม็อบ 3 นิ้วจะทำผิดยังไง ก็ต้องให้ประกันไว้ก่อน
ปชช.เดือด ย้อนถาม 6 พรรคฝ่ายค้าน ตัดสินใจดีแล้วใช่หรือไม่ เลือกยืนข้างกลุ่มทำลายสถาบันฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
แม้แถลงการณ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งนี้ จะไม่แตะมาตรา 112 ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักของแบมและตะวัน ที่พรรคการเมืองต้องเสนอนโยบายยกเลิกมาตรา 112 และมาตรา 116 แต่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนอยู่ฝั่งม็อบ 3 นิ้ว และในอนาคตหากมีอำนาจรัฐ ก็มีโอกาสที่มาตรา 112 จะถูกยกเลิกหรือแก้ไขด้วยน้ำมือของพรรคเหล่านี้ จากเดิมที่มีพรรคก้าวไกลเปิดหน้าเล่นอยู่พรรคเดียว ซึ่งการที่ 5 พรรคฝ่ายค้านมาร่วมผสมโรงกับพรรคก้าวไกล สนับสนุนการต่อสู้ของตะวันและแบม ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องการแย่งชิงคะแนนเสียงจากมวลชนคนรุ่นใหม่หัวใจ 3 นิ้ว เพราะนับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ต้องตระหนักให้มากคือ หากในอนาคตกฎหมายมาตรา 112 ถูกยกเลิกหรือแก้ไข จะเกิดอะไรขึ้นกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะทุกวันนี้ที่มีมาตรา 112 บังคับใช้ สถาบันพระมหากษัตริย์ยังถูกกลุ่มเหล่านี้ดูหมิ่นจาบจ้วง ปล่อยข้อมูลเท็จบิดเบือนใส่ร้ายให้ได้รับความเสียหาย ถูกดำเนินคดีก็ไม่เข็ดหลาบ ส่วนส.ส.พรรคก้าวไกลก็เหิมเกริม มีการอภิปรายในสภาพาดพิงสถาบันหลายครั้งหลายครา
ดังนั้นเรื่องนี้สังคมและประชานผู้มีจิตใจจงรักภักดี จึงเกิดคำถามไปยังแกนนำพรรคการเมือง ประกอบด้วย แกนนำพรรคเพื่อไทย และคนดูไบในฐานะผู้มีอำนาจตัวจริง ,แกนนำพรรคเสรีรวมไทยอย่างพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่เคยประกาศว่าไม่แก้มาตรา 112 ,แกนนำพรรคประชาชาติ พลตำรวจเอกทวี สอดส่อง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ,แกนนำพรรคเพื่อชาติ นางสาวปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ลูกสาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และแกนนำพรรคพลังปวงชนไทย นายนิคม บุญวิเศษ ทั้งหมดตัดสินใจดีแล้วหรือไม่ ที่จะยืนอยู่ข้างเดียวกับกลุ่ม 3 นิ้วที่ต้องการทำลายสถาบันหลักของชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง