พล.ต.อ. สรุเชษฐ์ ลั่นตำรวจต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่าง เพื่อกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยคืน ลั่นหากพบว่า ดาราสาวไต้หวันกุข่าว สร้างความเสียหายจะแจ้งดำเนินคดีอาญาให้ถึงที่สุด แม้จะอยู่คนละประเทศ
จากกรณีดาราสาวและเน็ตไอดอลชื่อดัง ชาวไต้หวัน ออกมาให้ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลฯ และ สื่อภายในประเทศไต้หวัน ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งด่านรีดทรัพย์ 27,000 บาท ขณะเดินทางพร้อมเพื่อนเข้ามาท่องเที่ยว ในประเทศไทย เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมา
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยประชุมร่วมกับพ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก. สน.ห้วยขวาง ภายหลังประชุมเสร็จสิ้น เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.อัฏธพร ได้เปิดเผยว่า ประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เร่งรัดทำความจริงให้ปรากฏ แต่จะต้องอยู่บนหลักการของนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากพยานแวดล้อมด้วย ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 1-2 วัน ข้อเท็จจริงจะกระจ่าง
โดยขณะนี้ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้แก่ กล้องวงจรปิด นำมาเชื่อมโยงข้อมูลกับข้อมูลจากคำบอกเล่าของพยาน ซึ่งดำเนินการไปได้กว่า 80% แล้ว
ในส่วนของพยานแวดล้อม คือ รถรับจ้างสาธารณะ จะมี 2 ส่วน คือ รถ Grab มาสด้า ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้เรียกตัวคนขับมาให้ข้อมูลแล้ว อีกส่วนคือ คนขับแท็กซี่ ที่รับดาราสาวออกจากจุดเกิดเหตุไป ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามเชิญตัวมาให้ข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาเชื่อมโยงกันกับข้อมูลที่ได้จากตำรวจในจุดเกิดเหตุด้วย
สำหรับตัวของดาราสาวคนดังกล่าว โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานงานติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการส่งต่อข้อมูลมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เมื่อข้อมูลสมบูรณ์ ก็จะแถลงข่าวให้ชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันหรือไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการเรียกรับเงิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อถามต่อว่า คดีนี้จะพลิกหรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ให้รอความคืบหน้า ตำรวจกำลังเร่งหาพยานหลักฐาน วันนี้ค่ำๆ อาจจะชัดเจนขึ้น
ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้ขับขี่แกร็ป มาสด้า 2 สีแดง ซึ่งปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิด ว่า เป็นรถที่รับดาราสาวไต้หวันจากสถานบันเทิง ย่านอาร์ซีเอ มาเข้าด่านตำรวจ ได้เดินทาง เข้าพบ พล.ต.ต.อัฏธพร เพื่อให้ปากคำกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวมีสีหน้าค่อนข้างเครียด และไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการสอบปากคำ
ด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ทั้งกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และสน.ห้วยขวาง สืบสวนเรื่องนี้โดยเร่งด่วนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และต้องทำความจริงปรากฎให้ได้ว่ามีการเรียกรับเงินตามที่ผู้โพสต์ได้กล่าวอ้างไว้หรือไม่ ซึ่งหากพบว่าตำรวจทำความผิดก็จะต้องดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา แต่หากฝ่ายผู้โพสต์ โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ก็จะต้องดำเนินคดีเช่นกัน เนื่องจากทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง ยืนยันว่าสามารถดำเนินคดีได้แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะอยู่ต่างประเทศ
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ในวันดังกล่าวมีการตั้งด่านตรวจจริง ส่วนความผิดตรวจสอบได้ไม่ยาก เพราะเชื่อว่ามีรายชื่อทั้งผู้ปฏิบัติงาน และภาพกล้องวงจรปิดโดยรอบบันทึกไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนก็จะหาความจริงให้ปรากฏให้ได้ ซึ่งหลังจากนี้หากคดียังมีความซับซ้อน ก็พร้อมที่จะใช้ชุดสืบสวนของตัวเองมาทำคดีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
