“ชูวิทย์” มีนัย ชู “นอท กองสลากพลัส” แย่งตลาดหวยรัฐ อ้างเป็นเหตุโดนคดีฟอกเงิน

ล่าสุดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เคลื่อนไหว โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า “วิกฤตของ “นอท กองสลากพลัส” สลาก หรือหวย อยู่ยงคงกระพันกับคนไทยมานาน โดยมีรัฐบาลเป็นเจ้ามือแต่เพียงผู้เดียว แต่ไม่นานมานี้ “นอท กองสลากพลัส” นำเสนอแพลตฟอร์มใหม่ ขายหวยออนไลน์ ทำการตลาดเข้ายุคคนรุ่นใหม่ ใช้ลีลาครบเครื่องเรื่องโซเชียล ใครถูกรางวัลที่ 1 แสดงท่าเอาเงินสดไปจ่ายโชว์ให้ถึงที่ จ่ายเต็มไม่มีหัก ขึ้นโฆษณาโปรโมททั่วบ้านทั่วเมือง หน้าของ “นอท กองสลากพลัส” จึงติดตา รู้จักคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี

นี่เป็นการทำการตลาดชั้นเยี่ยม จากการวางแผนของ “นอท” ในนามกองสลากพลัส แต่ที่นอทไม่รู้ นี่คือการท้าทาย “สินค้าผูกขาดโดยรัฐ” มานาน และไม่เคยมีใครกล้าเข้ามาแตะ สินค้าที่เป็น “การพนัน” อย่างถูกกฎหมาย ออกโดยรัฐ ขายโดยรัฐ ควบคุมราคาโดยรัฐ แม้ไม่เคยคุมได้สักทีไม่ว่ายุคใดสมัยใด การที่จู่ ๆ นอทโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดดข้ามขั้นขึ้นมาท้าท้ายระบบผูกขาดของรัฐ แตะผลประโยชน์มหาศาลที่มีคนวงในเกี่ยวข้อง ด้วยวิธีการ และการตลาดที่แยบยลจนรัฐตามไม่ทัน เมื่อไปปลุกยักษ์ให้ตื่น สิ่งที่ถาโถมเข้าสู่นอท คือกระบวนการที่โหมกระหน่ำไม่หยุดยั้งไม่ว่าการที่ กสทช. สั่งห้ามโฆษณาเพราะเป็นการพนัน การเสียภาษี การชี้แจงที่มาของเงิน และการฟอกเงินจากทุนสีเทา การส่งสัญญาณของรัฐคือ ทำให้นอทต้องวิ่งตามชี้แจงยืนยันความถูกต้อง

จะชี้แจงเส้นเงินที่ดูสับสนวกวน แม้จะยืนกรานอย่างไร แต่ผลลัพธ์กลับยิ่งเข้าตัว ยิ่งนอททำตัวเหมือน “เด็กดื้อ” อ้างว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ชี้แจงได้ทุกอย่าง ทั้งที่เบื้องหลังนอท เส้นเงินแต่ละเส้นก็สีเทา ๆ เมื่อทำตัวเป็น “เจ้ามือหวยรายใหญ่” เข้ามากุมตลาดสลากแข่งกับรัฐ จุดเดือดจึงมาถึงจนได้ ในต้นเดือนหน้า ข้อกล่าวหาที่นอทจะตอบสักกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถตอบถูกได้

คำถามต่างๆ เหล่านั้น เช่น

– บุคคลธรรมดาที่ไม่น่ามีเงินหลักร้อยล้าน มาให้นอทกู้ได้ น่าจะเป็นนอมินีของนายทุนสีเทา?

– บางคนตรวจสอบแล้ว ไม่น่ามีศักยภาพให้กู้ได้

– เรียกคนที่ให้กู้มาสอบแล้ว ไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของเงินที่นำเข้ามาได้

– เป็นเงินที่ไม่ได้เสียภาษี เป็นเงินสีเทา

คนที่ไปลงทุนกับนอทในการกว้านซื้อสลาก

แค่รัฐตั้งคำถามว่า “เงินที่นำมาลงทุนนี้ได้แต่ใดมา เสียภาษีถูกต้องหรือไม่?” เป็นหัวหดกันหมด!