ชัชชาติสะดุ้ง “พิธา” โชว์นโยบายก้าวไกลแก้ฝุ่น PM2.5

วันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โชว์วิสัยทัศน์การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุตอนหนึ่งว่า ปัญหา PM2.5 เราทำให้ดีกว่านี้ได้ เช้าวันนี้ที่เราตื่นมาเพียงเปิดหน้าต่างหรือเดินออกนอกบ้าน ผม ลูกของผม และคนที่เรารัก ต่างกำลังได้รับสารพิษที่ไม่ต่างจากการสูบบุหรี่ หรือสูดดมมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมจากมลพิษฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ผู้มีอำนาจของรัฐบาลปัจจุบันอาจมองว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา โดยนายพิธา ได้เสนอนโยบายแก้ปัญหา PM2.5 ของพรรคก้าวไกล ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล สิ่งที่จะทำคือ

1.ลด PM2.5 ที่มาจากยานพาหนะให้มากที่สุด โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล สิ่งที่พรรคก้าวไกลคิดว่าทำได้ทันทีคือ ตั้งเป้าเปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดในกรุงเทพฯ จากรถเมล์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล มาเป็นรถเมล์ไฟฟ้า หรือ EV Bus ทั้งหมดภายใน 7 ปี และรถเมล์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยหลังจากนี้ ต้องเป็นรถเมล์ไฟฟ้าทั้งหมดทุกจังหวัด และทุก 3 เดือน สุดท้ายของปี จะต้องเปิดให้ประชาชนนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาตรวจเช็คสภาพรถฟรี ถ้ารถคันใดผ่านมาตรฐาน จะได้รับสติ๊กเกอร์เพื่อติดรับรอง นอกจากนี้ในช่วงที่มี PM2.5 อยู่ในระดับวิกฤต ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตั้งด่านตรวจฝุ่น อีกทั้งต้องควบคุมปริมาณรถบรรทุกและรถบัสที่จะเข้ามาในเขตเมืองให้เข้มข้นขึ้น ส่วนระยะยาวต้องรณรงค์ให้ประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น โดยทดลองผ่านการทำ “วันรณรงค์ลดการใช้รถส่วนบุคคล” หรือ Car Free Day หรือ 1 วันที่รัฐบาลจะรณรงค์ให้คนในเมืองใช้ขนส่งสาธารณะให้มากที่สุดและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยในวันนั้นจะต้องฟรีค่าเดินทางขนส่งสาธารณะทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือ รวมถึงค่าที่จอดรถบริเวณจุดเชื่อมต่อ เพื่อให้ประชาชนได้ทดลองเดินทางแบบไม่ใช้รถส่วนตัว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อย ผ่านการร่วมมือกับประชาชนและท้องถิ่น เพราะจำนวนเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษมีไม่เพียงพอในการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมด รัฐบาลต้องช่วยสนับสนุนการทำงานของภาคประชาสังคมและท้องถิ่น อย่างเช่นนโยบาย “นักสืบฝุ่น” ของคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม. ให้ทำงานในการหาต้นตอของโรงงานที่ปล่อยมลพิษให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยไม่ให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่และพยายามลงทุนพลังงานสะอาดเพื่อมาแทนโรงไฟฟ้าถ่านหินเดิม เราตั้งเป้าว่าถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ต้องเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน

4.ลดการเผาในภาคเกษตรให้ได้ ซึ่งสำหรับอ้อยได้ลดการเผาลงไปมากแล้ว ผ่านการมีค่าปรับในการรับซื้ออ้อยที่เก็บเกี่ยวจากการเผา แต่สำหรับข้าวและข้าวโพดรัฐบาลยังต้องทำงานเพิ่มเติม

5. แก้ปัญหาไฟป่า ด้วยการเปลี่ยนงบประมาณด้านไฟป่าที่กระจายอยู่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่โปร่งใส ขาดการมีส่วนร่วม เปลี่ยนเป็นเงินสนับสนุนให้ท้องถิ่นต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยง

6.เพิ่มมาตรฐานบรรษัทภิบาลของกลุ่มทุนในประเทศให้มีเทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว วิธีการแก้ปัญหาการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน จึงเป็นการออกกฎหมาย/กฎกระทรวง ในการควบคุมการรับซื้อสินค้าเกษตรของกลุ่มทุนในประเทศเราเอง ไม่ให้กลุ่มทุนมักง่ายรับซื้อสินค้าเกษตรที่มีที่มาจากการเผาเหล่านี้

7.กำหนดค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศของประเทศไทยที่ทะเยอทะยานมากขึ้นตามที่ WHO แนะนำ ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลเราจะกำหนดค่ามาตรฐาน PM2.5 ให้มีมาตรฐานสากลขึ้น ตามข้อเสนอของกรีนพีซประเทศไทย สำหรับค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง เราจะกำหนดจาก 37.5 เป็น 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และสำหรับค่าเฉลี่ย 1 ปี เราจะกำหนดจาก 15 เป็น 10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

8.สุดท้ายเมื่อมีการกำหนดค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศแล้ว สิ่งที่ต้องทำคู่กันคือสถานีตรวจวัดคุและระบบแจ้งเตือน ที่ปัจจุบันยังมีสถานีตรวจวัดไม่ครบทุกจังหวัดและการแจ้งเตือนของภาครัฐยังมีไม่เป็นระบบ เราสามารถใช้ระบบแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติผ่านโทรศัพท์มือถือ

นายพิธา ระบุอีกว่า แน่นอนว่า 8 ข้อนี้ คงไม่ใช่ทั้งหมดในการแก้ปัญหา PM2.5 แต่ผมเชื่อว่าในรัฐบาลพรรคก้าวไกล ที่เราจะเพิ่มงบประมาณให้กับท้องถิ่นมากขึ้น นโยบายต่างๆ ของผู้บริหารเมือง เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ห้องปลอดฝุ่น ปลอดภัยสำหรับกลุ่มเปราะบาง ทั้งของคุณชัชชาติ และของผู้บริหารเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน จะสามารถทำได้อย่างอิสระขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนแน่นอน ปัญหา PM2.5 เป็นปัญหาที่ยาก แต่หลายประเทศสามารถทำให้ปัญหานี้ดีขึ้นได้ ผมก็เชื่อว่าประเทศไทยสามารถแก้ปัญหานี้ให้ดีขึ้นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น