เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “Top News” ถึงกรณีที่นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน แกนนำกลุ่มราษฎร กล่าวปราศรัยโจมตีสถาบันอย่างต่อเนื่อง ในกิจกรรมม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะตัวเองถูกดำเนินคดี และต่อมาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดที่ศาลได้สั่งห้ามไว้ และทำให้สังคมเกิดความยุ่งยาก ซึ่งนายอานนท์เองก็รู้ตัว แต่ยังทำอยู่ เพื่อหวังให้เกิดปัญหา เพราะถ้าตัวเองถูกจับควบคุมตัว ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเรียกร้องความสนใจให้คนออกมาร่วมชุมนุม ซึ่งวิธีนี้คนเขาดูออก และประชาชนทั่วไปต้องรู้ให้ทันเรื่องแบบนี้ เพราะนี่เป็นวิธีการทางการเมืองที่ต้องการให้คนมาร่วมการชุมนุม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ต้องดูว่าสิ่งเหล่านี้ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ และตนเชื่อว่าเจ้าหน้ากำลังจะดำเนินการอยู่ แต่รอให้เกิดการกระทำผิดซ้ำๆซากๆ
นายเสรี กล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค. ที่มีทั้งกลุ่มทั้งโจมตีและปกป้องสถาบันออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกันจะทำให้เกิดการปะทะกันจนมีความรุนแรงหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่ามีโอกาส เพราะหากออกมา 2 กลุ่มพร้อมกันจริงจะทำให้สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น กลุ่มที่ออกมาโจมตีสถาบันคนพวกนี้มีความคิดของเขาที่ต้องการปลุกระดมสร้างแนวร่วมขึ้นมา โดยเขาจะทำตามคนที่เขาเชื่อฟัง ซึ่งก็คือนักการเมือง
เมื่อถามกรณีที่แกนนำกระทำความผิดต่อเนื่องแล้วมีส.ส.บางกลุ่มไปประกันตัวช่วยเหมือนกับคอยให้ท้ายตลอด เกิดการกระทำความผิดแบบซ้ำๆซากๆหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เป็นการใช้เด็กเป็นเครื่องมือ คนที่ลำบากก็คือเด็กและพ่อแม่ เมื่อเด็กถูกจับไปดำเนินคดี กลุ่มคนที่สนับสนุนให้ทำความผิดเหล่านี้ก็จะได้แนวร่วมเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องเพิ่มเติม เป็นกลยุทธ์เพิ่มมวลชน เป็นการเล่นการเมืองแบบไม่รับผิดชอบ มีเป้าหมายที่ต้องต้องการแต่ไม่น่าจะไปถึง แถมยังทำให้เด็กเสียอนาคต เป็นการกระทำที่ถือว่าไม่รับผิดชอบต่อบุคคลอื่นทั่วไป
“ดังนั้นวันที่ 7 ส.ค. ขออย่าไปร่วมชุมนุม เพราะตอนนี้มีทั้งโรคระบาด และมีความตั้งใจในการกระทำความผิด ต้องการทำลายทรัพย์สินสิ่งของ เพื่อทำให้สถานการณ์วุ่นวาย ดังนั้นประชาชนอย่าไปร่วมกับคนเหล่านี้ การเมืองควรอยู่ในระบบที่เชื่อมั่นประชาธิปไตย ส่วนเรื่องการหาคนมาทำหน้าที่คือต้องผ่านการเลือกตั้ง และต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่” นายเสรี กล่าว