ยังออกมาฟาด “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีแดนไกลไม่หยุด สำหรับ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ล่าสุดออกมาเฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “หน้าไหว้ หลังหลอก” ตอบโต้ อดิศร เพียงเกษ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ถึงการชุมนุมต่อสู้ของคนเสื้อแดงในปี ๒๕๕๓ อดีตประธานนปช.ที่เป็นแกนนำในการชุมนุมปี ๒๕๕๓ ย้อนอดีตให้ฟังว่า สถานการณ์ในสมรภูมิชุมนุมของคนเสิ้อแดงในตอนนั้นมีคนเสื้อแดงบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จนหลายคนแบกรับสถานการณ์ไม่ไหว ตอนนั้นมีการประชุุมแกนนำในตู้คอนเทนเนอร์หลังเวทีชุมนุมราชประสงค์ แกนนำส่วนใหญ่เสียงเอกฉันท์อยากให้ยุติการชุมนุมโดยอ้างว่า เมื่อได้เวลาเลือกตั้งแล้วทุกคนก็ควรจะหยุด เหลือตนเพียงคนเดียวที่ยืนยันต้องชุมนุมต่อไป ” ทุกคนคิดอย่างเดียวกันยกเว้นผม ถ้าเราขึ้นเวทีบอกว่าจะยุติการชุมนุม แล้วมันไม่มีหบศพมันก็จะไม่มีอะไรเลย แต่พอมันมีหีบศพ นักการเมืองพอมีหีบบัตรจะให้ทิ้งหีบศพ เราจะตอบคำถามกับผู้ชุมนุมและญาติคนตายไม่ได้เลย” จตุพรออกตัว ประเด็นแรกที่ตอนนั้นมีความพยายามจากทักษิณต้องการให้ยุติการชุมนุม เพราะการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ ฝ่ายทักษิณพรรคเพื่อไทยมีตัวเลือกใจใจแล้ว เพราะวางแผนเตรียมส่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงเลือกตั้งจึงอยากให้คนเสื้อแดงสลายเวทีเพื่อจะได้มีโอกาสดันน้องสาวให้ขึ้นเป็นนายกฯ
จตุพรเปิดประเด็นร้อนต่อมาว่า มีความพยายามจะรัฐประหารยึดเวทีคนเสื้อแดง โดยทันทีที่มีการประกาศยุติการชุมนุมจะมีอีกทีมอีกชุดเข้ามายึดเวทีแทน ชุดนี้มีเป้าหมายทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและความตายจะมากกว่าเดิม ” การต่อสู้ของเราพยายามบอกทุกคนว่าให้ยึดแนวทางสันติวิธีเราต้องสู้กลางแจ้ง ถ้าสู้ทางการทหารผิดหมดเราต้องสู้ทางการเมือง มีการทหารเมื่อไหร่พังทันที เราจะลงเวทีอย่างอัปยศอดสูที่สุด เพราะเจ้าของเวทีที่จ่ายค่าทำเวทีตัวจริง เขาไม่ต้องการให้ยุติเวที แต่ทุกคนตกใจ ถอดใจหมดแล้ว ไม่อยากเล่าเรื่องนี้เพราะจะไปกระทบกระเทือนใจหลายคน แต่มันมีการวางแผนจะยึดเวทีอยู่แล้ว และคนที่ทำได้ก็คือคนเดียว พอประชุมเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์ตามคิดเลย จากนายกฯทักษิณ ความจริงเรื่องนี้ไม่เคยพูดที่ไหนเลย แต่พอคุณอดิศรหยิบยกเรื่องนี้มา นายกฯทักษิณพูดว่าหยุดเวทีนี้ได้อย่างไร ผมได้อะไร ผมได้อะไร” จตุพรระบุ ถัดจากนั้นจึงมีการเคลียร์แกนนำกัน แกนนำคนไหนเป็นฝ่ายทักษิณก็แยกตัวออกไป ส่วนแกนนำคนไหนเป็นนักเคลื่อนไหวก็อยู่กับจตุพรต่อ ถัดมา ๑๘ พ.ค.๒๕๕๓ กลุ่มส.ว.ก็มาคุยกับแกนนำที่เวที จากนั้น ๑๙ พ.ค.๒๕๕๓ ก็เกิดเรื่องขึ้นมา ” วันนั้นถ้าผมไม่อยู่คานเอาไว้ นาทีนั้นโอกาสตาย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เพราะสถานการณ์ตอนนั้นหนักมาก ”
จตุพรอธิบายสถานการณ์แตกแยกของแกนนำเสื้อแดงในวันที่ ๑๙ พ.ค.๒๕๕๓ ให้ฟังว่า วันนั้นคนที่ขึ้นเวทีต่อสู้และมีบทบาทมากที่สุดคือ ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ที่ประกาศห้ามไม่ให้ทุกคนขึ้นเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายแต่เจ้าตัวขอพูดทุกอย่างเอง ตอนนั้นทหารมาล้อมหมดแล้ว หน้าเวทีมีแต่คนเก่กับผู้หญิงราว ๕๐๐ คน ซึ่งทุกคนพร้อมตาย อารมณ์พร้อมพลีชีพ สุดท้ายผมก็ให้ยุติการชุมนุมถ้าไม่หยุดในวันนั้นก็จะมีความตายที่รุนแรงเกิดขึ้น ” หลายปีต่อมา มืองานคนสำคัญในวันนั้นมาเล่าให้ฟังว่า วันนั้นมีการวางแผนจะยิงถล่มเวทีในขณะที่ขึ้นกล่าวให้ยุติ แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่ตัดสินใจทำ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อจะชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจเรื่องหัวลำโพงกับบางซื่อ ไม่โทษพี่วีระที่ลาออกจากประธานนปช. เพราะทันทีที่ลูกชายถูกเอาปืนจี้ทุกเรื่องราวก็เปลี่ยนแปลงไป เข้าใจความเป็นพ่อคนก็ไม่โทษไม่ว่ากัน วันนั้นถ้าผมไม่ทัดทานเอาไว้ ขึ้นเวที (พัวะ) พอลงจากเวทีจะมีอีกชุดไปยึดเลย ชุดที่สู้ตอนนั้นใจถอดหมดแล้ว ยอมหมดแล้ว ผมก็อธิบายเขาไปว่า ประชาชนเขาไม่กลับ นอกจากไม่กลับจะมีอีกชุดมายึดเวที อันนี้เป็นเหตุการณ์ก่อนเสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ) ถูกสไนเปอร์นะ ผมเล่าเรื่องนี้เพื่อจะบอกว่าหัวลำโพงมันจำเป็น เพราะมิเช่นนั้นมันจะตายนองเลือดที่บางซื่อ ชนิดที่มากกว่า อาจจะหลายร้อยศพขึ้นมา ที่ต้องลากไปหัวลำโพงเพราะต้องการลดความตายที่จะเกิดขึ้น และเจ้าของเวทีเขาก็เตรียมการอีกชุดหนึ่งอยู่แล้ว นักการเมืองนายกฯทักษิณเคลียร์ นักเคลื่อนไหวผมเคลียร์ แต่ผมไม่มีทางเลือกอย่างอื่น เพราะเห็นเกมทั้งสนามเห็นเกมทั้งกระดานว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมอธิบายว่าไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เลย ทั้งห้องมีผมเสียงเดียว แต่ผมเห็นเลยอธิบายแต่ตอนนั้นทุกคนหันหัวไปหมดแล้ว” จตุพรอธิบายรายละเอียดแฉชัดเจ้าของเวทีไม่อยากให้การชุมนุมของเสื้อแดงในตอนนั้นยุติ หากกลุ่มของวีระ จตุพร และคนอื่นๆยุติการชุมนุมในตอนนั้น ก็เตรียมส่งอีกชุดมาคุม และมีการสั่งการให้ใช้ความรุนแรงยิงถล่มตอนขึ้นอำลาเวที
อดีตประธานนปช.ที่ออกมายอมรับว่าผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับทักษิณ เพราะถูกหลอกซ้ำซากจากอดีตนายกฯ ที่รับปากหลายเรื่องแต่ไม่เคยทำได้ตามที่พูดเลย รวมถึงใจดำอำมหิตหลอกคนไปตาย เอาชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองสารพัดครั้งนับไม่ถ้วน ยังร่ายยาวต่อว่า “คุณอดิศรยกเรื่องนี้มาก็ดีแล้ว ว่าวันนั้นที่ผมต้องไปหัวลำโพง และถ้าผมลงบางซื่อตามคุณอดิศรและอีกหลายคนไปวันนั้น ที่นั้นจะนองเลือดมากกว่านี้ เลือดจะนองท้องช้าง เพราะว่าเจ้าของเวทีเขาไม่ยอม และมีอีกชุดหนึ่ง คนของเจ้าของเวทีเตรียมแผนยึดเวที แล้วเราก็จะเป็นหมาเลย เห็นหีบบัตรแล้วก็ทิ้งหีบศพเลย พยายามจะไม่พูดเรื่องนี้” จตุพรกล่าว ก่อนยืนยันว่ากรณีมีคนออกมาใส่ร้ายว่า ที่เปิดตัวออกมาพูดเรื่องนี้เพราะได้เงินเพราะสู้แล้วรวย แต่บอกเลยตนไม่ใช้คนแบบนั้น ความจริงถ้าไม่มีเรื่องอะไรมากระทบกระเทือนมากมาย ก็อยู่ตามปะสาตัวเองอยู่แล้ว เพราะเป็นคนปากกับใจตรงกัน ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อะไรที่ผิดก็บอกผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกฯทักษิณไม่ประสงค์จะฟัง เวลาต่อสู้ก็ดีกันอยู่แต่เวลาชนะตนเป็นยาขม เพราะคอยทักท้วงรู้ว่าอะไรจะเกิดปัญหา เพราะเราเห็นเลือด เห็นความตายของประชาชน กว่าจะได้ชัยมามันแลกมาด้วยเลือดเนื้อชีวิตและคราบน้ำตา
จตุพรกล่าวถึงสาเหตุสำคัญที่ออกมาอัดแหลกทักษิณ ถลกหนังหัวโทนี่ เปิดโปงนักโทษหนีคดีซึ่งเคยเป็นอีดตเจ้านายที่เขารัก ทำงานรับใช้มานานกลายสิบปี ถึงขนาดถวายชีวิตเข้าแลกก็ยังได้ว่า ” กรณีนี้ก็เหมือนกันถ้านายกฯทักษิณไม่พูดถึงผมก่อนที่ฮ่องกงเมื่อไม่กี่วันมานี้ ใครตามผมจัดรายการประเทศไทยต้องมาก่อนจะรู้เรื่องหลักๆของเราคือ ปลดแอกพลังงาน เรื่องหยุด ๓ ป. หยุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เกี่ยวอะไรกับทักษินเลย แต่การที่นายกฯทักษิณกลับมาพูดดูถูกดูแคลน ถ้าสัญชาตญานขี้ข้าอย่างถาวรอาจจะทนได้นะ ผมยอมรับบางเวลาก็เป็นขี้ข้าเหมือนกัน แต่ก็ใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะเป็นอิสรภาพ ไม่ใช่ว่าผมจะไปสยบยอม แต่ระหว่างทางมันมีความตายเกี่ยวข้องเยอะแยะไปหมด มันเลือดท่วมปาก ถ้าอยากจะสอพลอไม่ลำบากหรอก วันนั้นถ้าผมตามลงบางซื่อด้วย ขาดผมคนเดียว ตายเป็นเบือ เพราะเจ้าของเวทีเขาไม่ยอมจบ เตรียมอีกชุดหนึ่งเข้ามายึด ” อดีตแกนนำเสื้อแดงเปิดเผยความจริงในวันนั้น นายใหญ่คือคนกำหนดเกมชี้เป็นชี้ตายให้ทุกคน จตุพรยืนยันว่าเขาถูกใบสั่ง “ตาย” และต้องตกเป็น “เป้าสังหาร” ระหว่างเป็นแกนนำเสื้อแดงบนเวทีราชประสงค์เมื่อปี ๒๕๕๓ เพราะมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่ามีการสั่งให้จัดการเขาจริงๆ จากเจ้าของเวทีที่เป็นคนจ่ายเงินที่เป็นคนอยู่เบื้องหลังทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนในช่วงนั้น ” ถูกต้อง เป็นที่รู้กัน ผมก็ได้ยินกันอยู่แล้ว ว่าเป็นการร้องขอจากฝ่ายเดียวกันให้จัดการผมด้วยซ้ำ” ทั้งหมดแค่ส่วนหนึ่ง เพียงเสี้ยวหนึ่งของความใจดำอำมหิตที่จตุพรคนใกล้ชิดนายใหญ่ ถ่ายทอดชุดข้อมูลจริงที่ “จ่าฝูงหมา” คิดแผนการชั่วเลวระยำกับคนเสื้อแดงเมื่อปี ๒๕๕๓ ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นออกมาต่อสู้เพื่อคนที่รัก แต่กลับถูกหลอกไปตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เห็น “หีบเลือกตั้ง” ทอดทิ้ง “หีบศพ” เพื่อสนองความต้องการและผลประโยชน์ของตัวเอง ชีวิตคนเสื้อแดงไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาของ “มัน” คำว่าจัญไรยังน้อยไป
///////////////////