เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 66 ที่วุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการปกครอง และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มาร่วมชี้แจงกรณี “กองสลากพลัส”
โดยนายสมชาย เปิดเผยหลังการประชุมว่า ในส่วนกรมการปกครองประเด็นที่สงสัยคือ 1.ตัวสลากการกุศล 11 ล้านใบเข้าข่ายความผิดการพนันหรือไม่ เพราะกองสลากพลัสไม่ใช่ผู้ได้รับอนุญาตจัดจำหน่าย แต่เป็นหน้าที่ของสำนักงานสลากฯที่ทำหน้าที่แทนหน่วยงานต่างๆในการออกสลากการกุศล 2.“กล่องสุม” ในส่วนนี้มีความผิดการพนันชัดเจนเพราะไม่ได้มีการขออนุญาต ซึ่งกรมการปกครองมีหมายเรียกตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่ทางกองสลากพลัสยังไม่เข้ามาชี้แจงก็ต้องดำเนินคดี
นายสมชาย กล่าวว่า นอกจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มาให้ข้อมูลในส่วนผู้ถือหุ้นกองสลากพลัส ที่ปัจจุบันมี นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นกรรมการผู้มีอำนาจเต็มคนเดียว ซึ่งก็แปลกขณะที่ยังมีผู้ถือหุ้นอื่นบ้างแต่ไม่มีอำนาจ
นายสมชาย กล่าวว่า ด้านกรมสรรพากรชี้แจงเรื่องการเรียกเก็บภาษี ที่กองสลากพลัสไปยื่นขอชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากค่าบริการ ซึ่งประเด็นคือกรมสรรพากรต้องเรียกตรวจสอบ เพราะกมธ.เห็นว่าเรียกเฉพาะค่าบริการได้ด้วยหรือ หรือต้องเรียกทั้งใบ เพราะต้นทุนสลากที่เราได้รับข้อมูลไม่ใช่รับมา ใบละ 70 เอาไปขาย 80 แล้วคิดค่าบริการ 20 บาท จ่ายแวต 7 เปอร์เซนต์ ซึ่งมีประเด็นที่ต้องดูว่า 1. ค่าบริการจะเป็นปัญหาในอนาคตหรือไม่ เพราะข้อมูลที่ได้รับมีการกว้านซื้อสลาก ในราคา 80-95 บาท เพราะฉะนั้นการขายขาดทุนแล้วอ้างว่าขาย 80 บาท ที่เหลือเป็นค่าบริการ เป็นค่าบริการจริงหรือ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่ากรมสรรพากรจะไปรับผิดชอบว่า รับภาษีค่าบริการมาแล้ว 2. ยอดที่เรียกเก็บ กมธ.ได้ข้อมูลว่า กองสลากพลัสไปจ่ายมาแล้ว 2 งวดเป็นเงินหลายร้อยล้าน นั้น คำถามคือกรมสรรพากรได้ตรวจลงลึกหรือไม่ว่าราคานี้คือเอาราคาทั้งหมดมาคำนวน หรือ มีสลากอยู่จริงเท่าไหร่ ต้องเรียกข้อมูลมาดูไม่ใช่เรียกเก็บอย่างเดียวตามที่กองสลากพลัสยื่น