แล่เนื้อ “ทักษิณ” หมิ่นสถาบัน-จตุพรท้ารบบัดซบ

ขณะเดียวกัน เดอะไทมส์ ได้ระบุคำพูดของ ทักษิณ ว่า “สถาบันยอมรับการรัฐประหารอย่างรวดเร็ว และปฏิเสธคำถวายฎีกาที่กลุ่มคนเสื้อแดง 3.5 ล้านคน ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ ทักษิณ”

นอกจากนี้นายทักษิณ ยังกล่าวโจมตีองคมนตรี ว่า จับมือกับนายพลระดับสูง เพื่อทำการรัฐประหารรัฐบาล ซึ่งองคมนตรีที่นายทักษิณสื่อถึงคือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ บุคคลที่คนไทยให้ความนับถือ แต่นายทักษิณกลับมองเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาตลอด และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจึงได้รุมกันเล่นงาน พล.อ. เปรม ตลอดมาจนถึงขนาดขนทัพเสื้อแดงไปบุกบ้านสี่เสาเทเวศน์

เช่นเดียวกันในปี 2558 นายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลี ทำนองพาดพิงสถาบันฯ และต่อมา พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบเทปการให้สัมภาษณ์ของทักษิณ ถ้าผิดจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะดูหมิ่นเรื่องไหน เราก็ต้องออกมาดำเนินการ

ขณะเดียวกันที่นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรรี ยังมีพฤติกรรมทำตัวเสมอสถาบันได้อย่างน่าละอาย โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 นายทักษิณ กล่าวในรายการ “นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน” โดยแจงการขายหุ้นและโอนหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวได้ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและถูกต้องตามกติกาทุกอย่าง ขณะเดียวกันนายทักษิณยืนยันว่า หากจะลาออกมีเพียงพระเจ้าอยู่หัวเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ถ้าพระองค์ทรงกระซิบบอกก็จะกราบพระบาทลาออกทันที ซึ่งคำพูดของนายทักษิณในครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจต่อประชาชนที่รักสถาบันเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังรวมถึงพฤติกรรมเหิมเกริมของนายทักษิณในการเป็นประธานจัดงานทำบุญประเทศภายในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อปี 2548 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นนายทักษิณถูกปวงชนชาวไทยออกมาก่นด่าว่าทำตัวหมิ่นเบื้องสูง แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้นออกมายืนยันว่า การทำบุญประเทศที่วัดพระแก้วของนายทักษิณได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว ซึ่งต่อมาได้มีการเปิดเผยถึงข้อพิรุธในเรื่องการพระบรมราชานุญาตในจดหมายจากสำนักเลขาธิการสำนักมหาเถรสมาคม สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ฉบับวันที่ 8 เมษายน 2548 ลงนามโดยนางจุฬารัตน์ บุญยากร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอใช้สถานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเวลา 15.00-16.00 น.โดยมีองคมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำองค์กรอิสระเข้าร่วมพิธี แต่ไม่ได้ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานแต่อย่างใด