ประธานชวน กรีดเลือด “เจี๊ยบ” กลางสภา สวนถ้าห่วง “ตะวัน-แบม” ควรอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ประธานชวน กรีดเลือด "เจี๊ยบ" กลางสภา สวนถ้าห่วง "ตะวัน-แบม" ควรอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

สภาเดือด “เจี๊ยบ ก้าวไกล” ปุจฉาคาใจ มัวแต่ “เซ็นเซอร์” ตัวเอง ม.112 ใช่กฎหมายหรือไม่ ด้าน “ปธ.ชวน” กรีดเลือดซิบชี้ถ้าห่วง “ตะวัน-แบม” ก็ควรอภิปรายเรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

1 ก.พ.66 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณา ญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาสิทธิประกันตัว และการบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกินและขัดต่อหลักนิติธรรมต่อผู้ต้องขังและผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง จากกรณีน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) แกนนำกลุุ่มทะลุวัง เดินทางไปถอนประกันตนเองที่ศาลอาญา ในคดีอาญามาตรา 112 และทำการอดอาหารประท้วงในเรือนจำ จนร่างกายถดถอยเข้าสู่สภาวะวิกฤต ตามที่พรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนฝ่ายค้าน เสนอ

โดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายว่า ขอถามไปยังผู้พิพากษา ที่กำลังทำในสิ่งที่เกินเลยในสิ่งที่กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจรองรับแบบนี้ได้อย่างไร โฆษกศาลยุติธรรมมาตอบมาตรงคำถาม ขอถามโดยตรงไปยัง ประธานที่ประชุมโดยตรงว่าหลักการถ่วงดุลอำนาจบริหารและนิติบัญญัติตุลาการเรามีศักดิ์ศรีเสมอกัน เราจะไปหงอให้กับอำนาจตุลาการทำไม

“ถามว่าญัตติด่วนขบวนเสด็จที่ทำให้คนถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ถึง 5 คน ท่านบรรจุไม่เป็นญัตติด่วนมาเป็นปีกว่าแล้ว กลัวอะไรค่ะ ทำไมไม่เปิดพื้นที่ให้อภิปรายในสภาฯแห่งนี้ จนกระทั่งกดดันให้ไปพูดบนท้องถนนและต้องคดีความร้ายแรง ถ้าท่านเปิดพื้นที่จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ และการเสนอขอแก้มาตรา 112 ดิฉันขอถามว่ามาตรา 112 มันใช่กฎหมายหรือไม่ กฎหมายมนุษย์เขียนขึ้นมันต้องแก้ไขได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้และถึงที่สุดแล้วมันต้องยกเลิกได้ เราเสนอแก้กฎหมายไปตั้งแต่เดือนก.พ.2565 แต่ท่านเมินเฉยไม่บรรจุท่านอ้างแต่ว่ามันขัดมาตรา 6 ท่านไม่ทราบจริงๆเหรอท่านเคยเป็นทั้งนายกและประธานสภาฯมากี่สมัย ท่านไม่ทราบหรือว่ามาตรา 6 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุผลที่ยกมา เพราะพระมหากษัตริย์ใช้อำนาจผ่าน 3 ตุลาการ บริหารและนิติบัญญัติ ท่านไม่ได้ใช้อไนาจด้วยตัวเอง มหากษัตริย์ไม่มีทางผิดในการใช้อำนาจผ่าน3 ทางนี้” นางอมรัตน์ กล่าว

นายชวน ได้เตือนว่า ระวังอย่าไปก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ส่วนประเด็นอื่นเมื่อพูดจบแล้วตนจะชี้แจงให้ฟังแต่เรียนให้ทราบว่าไม่เคยกลัวอะไร นางอมรรัตน์กล่าวสวนว่า “ท่านก็พูดหล่อๆแบบนี้” ทำให้นายชวน กดปิดไมค์พร้อมกล่าวว่า เรื่องอะไรที่บรรจุในระเบียบวาระถ้าเรามาประชุมเราก็ไปถึง นางอมรัตน์ กล่าวอีกว่า ขอให้ท่านมีจิตใจที่กล้าหาญ สักครึ่งหนึ่งของน้อง ๆ เยาวชนในปัจจุบันนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

นายชวน กล่าวตอบว่า อย่าไปเทียบเลย เพราะน้องเขามีความกล้าหาญของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา ทุกคนในที่นี้ก็มีความกล้าหาญ ไม่ใช่คุณคนเดียวแต่คนเหล่านั้นเขารักษากติกาในการประชุมร่วมกันเขาพยายามไม่ล่วงละเมิดข้อบังคับเขาพยายามจะรักษาการประชุมให้เป็นไปโดยปกติ

ทำให้นางอมรัตน์ กล่าวว่า ถามท่านประธานครั้งหนึ่งท่านประธานเคยถือวิสาสะปิดไมค์ ตนถามถึงความเป็นอิสระของศาล นายชวนชี้แจงว่า ที่ปิดไมค์เพราะเตือนแล้วไม่ฟังเมื่อเตือนคุณก็พูดไม่หยุดก็จำเป็นต้องปิด เพื่ออธิบายให้ฟังไม่ได้โต้เถียง แต่ทำหน้าที่ในฐานะประธานตามข้อบังคับและตัดสินใจบางเรื่อง ความจริงแล้วด้วยความหวังดีไม่ต้องการให้เราไปแล้วละเมิดล่วงอำนาจฝ่ายอื่น เช่นศาล เดี๋ยวจะกลายเป็นไปอำนาจละเมิดศาลและศาลสั่งจำคุกหมดสภาพสมาชิกแต่ท่านอาจจะมองไม่ออกเรียนว่าตนก็ต้องรับผิดชอบเป็นปากเสียงและปกป้องไม่ให้พวกเรามีปัญหาแต่แน่นอนวิถีปฏิบัติก็อาจจะไม่สอดคล้องที่คุณมีความเห็น

นางอมรัตน์ กล่าวว่า ตนรับผิดชอบตัวเองได้ ตนอ่านระเบียบข้อบังคับสภาฯ ไม่ใช่ประธานอ่านอยู่คนเดียว อย่างข้อบังคับที่ระบุไม่ให้พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือชื่อบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น แต่เมื่อมีความจำเป็นประธานต้องอนุญาตให้พูด

นายชวน จึงชี้แจงแทรกขึ้นว่า บางอย่างเวลาตนตัดสินอาจไม่ตรงกับนางอมรัตน์ แต่ต้องให้อำนาจประธานในการตัดสินบางเรื่องว่าควรหรือไม่ แต่จะเห็นด้วยหรือไม่เป็นสิทธิ์ของนางอมรัตน์

นางอมรัตน์ กล่าวว่า ตนยอมรับการใช้อำนาจที่ถูกต้อง แต่ตนไม่ยอมรับการใช้อำนาจเซ็นเซอร์ตัวเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีพื้นที่ จนกระทั่งมีการลงถนน ถ้าเปิดพื้นที่ในสภาฯจะเป็นทางออกให้กับทุกคน

นายชวน พูดสวนทันทีว่า การลงถนนไม่ใช่เป็นเพราะเราปิดโอกาส สภาฯเปิดโอกาส ถ้าเราไม่เปิดโอกาส วันนี้ญัตตินี้ก็มาไม่ได้ เพื่อนสมาชิกก็มีน้ำใจทุกคน

นางอมรัตน์ จึงถามกลับว่า เปิดโอกาสแบบไหน ขนาดมีม็อบมาหน้าสภาฯ บุกกันเข้ามาแล้วฉีดแก๊สน้ำตา ยิงกระสุนยาง ท่านยังบอกให้ประชุมต่อ ท่านเคยแยแสอะไรข้างนอกบ้าง

นายชวน ชี้แจงว่า วันนี้ที่มีการอภิปรายญัตติดังกล่าว เพราะเพื่อนสมาชิกทุกคนให้โอกาสตามที่เราขอ เราอย่าไปเอาปัญหาข้างนอกแล้วมาโทษที่นี่ทุกเรื่อง มันไม่จริง ตนขอปกป้องสภาฯ ตนอยู่ในสภาฯตนก็รักสภาฯ ไม่ต้องการให้เพื่อนๆสมาชิกมีปัญหา

“มีคนตำหนิว่า ทำไมประธานปล่อยให้มีการไปก้าวล่วงสถาบันอื่น ประธานก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบจึงต้องเตือน ไม่ใช่เตือนเพราะกลัว แต่เตือนเพื่อให้กฎเกณฑ์กติกาเป็นไปตามวิถีทาง” ประธานสภาฯ กล่าว

ขณะที่ทางด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงนางอมรัตน์ว่าตามข้อบังคับ โดยขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็น อย่าซ้ำซาก เนื่องจากใช้เวลาพอสมควรแล้ว รวมถึงพฤติกรรมก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

จากนั้นการอภิปรายจึงดำเนินต่อไป โดยนางอมรัตน์ ได้อภิปรายเนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปสถาบันศาล ที่ไม่ได้มีส่วนยึดโยงหรือมาจากประชาชน จึงไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกประชาชนได้ พร้อมเสนอให้มีกลไกตรวจสอบสถาบันศาล พร้อมฝากทิ้งท้ายต่อนายชวน ประธานที่ประชุม ระบุว่า การเซ็นเซอร์ตัวเอง เกินความจำเป็น ไม่เกิดประโยชน์

นายชวน จึงกล่าวขึ้นว่า “ถ้าเราห่วงน้อง2คน เราก็ควรอภิปรายในญัตติที่เกี่ยวกับน้อง เดี๋ยวจะกลายเป็นญัตติไม่ไว้วางใจประธาน”

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น