“ไทยศรีวิไลย์” ร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดบางจาก พร้อมนำ “งานวัด” เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย

"ไทยศรีวิไลย์" ร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดบางจาก พร้อมนำ "งานวัด" เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค ,นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค,นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุข , นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังค์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค และคณะ ได้มาร่วมงานผูกพัทธสีมา ปิดทอง ฝังลูกนิมิต วัดบางจาก ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยนายมงคลกิตติ์และคณะ ได้นมัสการสมเด็จพระพุทธมงคลชัย หรือหลวงพ่อโต วัดบางจาก โดยเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 19 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งสามารถมองเห็นได้แต่ไกล รวมทั้ง ได้นมัสการ พระโมคคัลลานะ – พระสารีบุตร พระอัครสาวกซ้าย – ขวา ของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวบ้านละแวกนี้ ได้ตั้งชื่อเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายว่า “หลวงพ่อหนุนดวง-หลวงพ่อค้ำดวง” เพื่อเป็นสิริมงคล และเสริมสร้างกำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้

โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การที่พรรคไทยศรีวิไลย์ได้มาร่วมงานวัดในพื้นที่ต่างๆ นอกจากจะมามนัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขอพรให้ตนได้มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทย เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศและประชาชนแล้ว ยังจะได้เห็นสภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มาเที่ยวงาน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการจับจ่ายซื้อของต่างๆ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ในปัจจุบันหลายๆฝ่ายต่างพยายามเดินหน้าเรื่องซอฟท์พาวเวอร์ ดังนั้น หากจะได้นำงานวัดไปผลักดันเพื่อเป็นอีกหนึ่งซอฟท์เพาวเวอร์แล้ว ก็ถือว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ต่อการจัดจำภาพลักษณ์ของประเทศไทยของนักท่องเที่ยว และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกทางด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการคัดเลือกผู้สมัครในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้ง 2 ระบบนั้น ขณะนี้ ก็ยังเดินหน้าตามยุทธศาสตร์เดิม คือ ‘ไม่ยุบ ไม่รวม ไม่ดูด ไม่ซื้อ’ เพราะตนต้องการให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ทำงานการเมืองตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.ที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคฯ จะต้องมีจิตใจที่ต้องการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีจิตใจที่คิดจะทำแบบนักธุรกิจที่มีการคืนทุนถอนทุนโดยมีเหยื่อคือประชาชนที่หลงเชื่อตามแรงดึงดูดจากพลังเงินและพลังอำนาจ โดยขณะนี้ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคฯ ที่มีความชัดเจนแล้วก็คือ ตนเองที่จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี น.ส.กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ กุ้งพลอย ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอ่างทอง ซึ่งตนอยากจะขอให้คนอ่างทอง เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเยอะๆ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ในการส่ง น.ส.กนิษฐรินทร์ เป็นผู้สมัคร ส.ส. อ่างทอง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้ง ยังได้มีการทาบทาม น.ส.พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือมาดามอ้อ ลงสนามในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยจะลงสนามในเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เพราะเป็นพื้นที่ที่ตนและมาดามอ้อมีความผูกพัน ในฐานะที่เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จึงรู้ทุกซอกทุกมุมของเขตบางซื่อเป็นอย่างดี รวมทั้งเขตพื้นที่ที่ติดต่อกันอย่างเขตบางพลัด อำเภอเมืองนนทบุรี และอำเภอบางกรวย ดังนั้น หาก น.ส.พัทธนันท์ ลงสมัคร ส.ส. ในพื้นที่เขตบางซื่อ แล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพ และสร้างความน่ากลัวให้กับคู่แข่งอย่างแน่นอน

 

 

“เดิมในการลงเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ผมเองอยากลง ส.ส.กทม เขต บางซื่อ เพราะเป็นเขตที่ผมได้เรียนหนังสือจบมา ตั้งแต่ เตรียมวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิค(ปวช) จนถึง ระดับ ป.ตรี ภาควิชา วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตั้งแต่ ปี 2540-2547 และ เป็น ผู้ช่วยเลขานุการสมาคมศิษย์เก่า มจพ.ปี 57-58 และ ยังเคยอาศัยอยู่แถบบางซื่อมานาน จึงมีความคุ้นเคย ทราบปัญหาต่างๆ ในพื้นที่พอสมควร แต่ด้วยภารกิจในการลงพื้นที่รับฟังปัญหาแก้ปัญหาประชาชน รวมทั้งกิจกรรมรณรงค์หาเสียงทั้ง 77 จังหวัด เพื่อขอคะแนนสนับสนุนให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถ ลงสมัคร ส.ส.กทม ในระบบเขตได้ ดังนั้น ผมกำลังทาบทาม น.ส. พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือ คุณอ้อภรรยาผมเอง มาลง ส.ส.กทม เขต บางซื่อ แทน เนื่องจากเคยเรียนจบ ภาควิชา วิศวกรรมเคมีและกระบวนการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. พ่วงอดีตดาวคณะวิศวกรรมศาสตร์และดาวมหาวิทยาลัย ปี2543 แต่ไม่รู้ว่าเขาจะตกลงไหม เพราะติดภาระดูแลลูกทั้ง 4 คน แต่อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนับสนุนผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ ถึง 1 ล้านคะแนนแล้ว ก็จะได้ผมและผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ อีก 2 – 3 คน เพื่อจะได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาและผลักดันนโยบายต่างๆ ที่สามารถทำให้คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย” นายมงคลกิตติ์กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น