วันที่ 2 ก.พ.66 นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการสำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้าโพล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวTop news ถึงกรณีมองพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะลงสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำให้พรรคมีคะแนนนิยมดีขึ้นหรือไม่ ว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจลงเป็นปาร์ตี้ลิสต์หมายเลข1 เป็นแง่ดีต่อสังคมโดยรวมที่จะมองพล.อ.ประยุทธ์ ที่เอาจริงเอาจังทางการเมือง ตั้งใจจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน ตั้งใจที่จะเล่นการเมืองอย่างจริงจัง ไม่ได้ขาลอยมาก่อนเหมือนสมัยก่อน พร้อมที่จะเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัว และต่อสู้ทางเวทีการเมือง เช่นเดียวกับนักการเมืองอื่นในระบอบประชาธิปไตย แม้กระทั่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคิดเป็นว่าเป็นแคนดิเดตหมายเลข1เช่นเดียวกัน มองว่า Image พล.อ.ประยุทธ์ ดูดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์อยู่แล้ว และยิ่งมีความมั่นใจในการสนับสนุนมากขึ้น
"ผอ.นิด้า" มอง "รทสช." คะแนนนิยมดีขึ้นหลัง"บิ๊กตู่" ย้ายซบ ร้อยละ 6.9 ชี้ อย่าด้อยค่าพรรค ชี้ ถ้ามีคนดังๆเป็นดาวกฤษ์ร่วมพรรค-แคมเปญจูงใจ ทำให้พรรคเติบโตได้
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อถามว่า ท่าทีของพลเอกประยุทธ์ ขณะยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ ความนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติมองว่าเป็นอย่างไร นายสุวิชา กล่าวว่า เมื่อมีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายมาอยู่รวมไทยสร้างชาติ จะเห็นได้ว่าคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นทันทีจาก 10% เป็น 14% คะแนนส่วนนี้ก็ดึงมาจากกลุ่มคนที่ชื่นชมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติจากคะแนนนิยมที่ศูนย์จุดกว่าๆพุ่งขึ้นเป็นร้อยละ 6.9 และการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ไปอยู่กับพรรคใหม่เป็นความพยายามในการดึงเอาคะแนนนิยมเดิมๆที่เคยมีอยู่ให้กลับมาสู่ตนอีกครั้ง โดยผ่านพรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมา
ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐมี พล.อ.ประวิตร เป็นผูู้แล ซึ่งทางพล.อ.ประวิตร ก็แฮปปี้เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ออกไปทำให้ตัวเองมีความยืดหยุ่นมากพร้อมที่จะร่วมรัฐบาลทั้ง 2 ฝั่ง และการเป็นแม่เหล็กดึงคนเข้าสู่พรรค เพราะมีโอกาสเป็นรัฐบาลสูงมากที่สุด ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ประโยชน์สามารถดึงเอาคนที่สนับสนุนตนเอง แต่ไม่อยากได้พรรคพลังประชารัฐแล้วกลับเข้ามา แสดงให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจอย่างแน่วแน่ ว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ กลับเข้ามาสู่ระบบการเมืองอย่างแท้จริง ทำให้คนที่เคยสนับสนุนถอยกลับมาหาอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะยังถอยกลับมาไม่หมด แต่ตนเชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติหวังไว้ให้ได้ใกล้เคียง 30% เดิม มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อถามต่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้หรือไม่ นายสุวิชา มองว่าจากผลโพลปัจจุบันได้ส.ส.อยู่ที่ประมาณ 40 คน ยังไงก็เกิน25 คน ใครที่ไปด้อยค่าคิดใหม่ ยังไงก็ถึง 25 คน แต่ถ้าจะได้มากตามที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคต้องการคือ 80 คน ถือเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าสามารถดึงเอาคนดังๆคนเป็นดาวฤกษ์มาอยู่ในพรรคได้หรือไม่ แต่สำหรับคนที่มาอยู่กับพรรคคนที่เป็นระดับดาวฤกษ์ยังไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกอดีตส.ส.ซึ่งมีชื่อมานานแล้ว และทราบมาว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ใช้โมเดลวิธีผลักดันนักการเมืองแถวสองที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เข้ามาเป็นนักการเมืองแถวหนึ่ง เพราะนักการเมืองแถวสองมีบทบาทและใกล้ชิดกับประชาชนมาก ถ้าทำสำเร็จจะทำให้พรรคเติบโตได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะสามารถหาแคมเปญอะไรมาจูงใจให้คนที่กำลังไปเลือกพรรคอื่น หันกลับมาเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง