นางจีนเน่ ชาฮีน วุฒิสมาชิกจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ได้เผยแพร่จดหมายถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ที่ลงนามโดยวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่อสาธารณะ โดยข้อความในจดหมายระบุว่า ความล้มเหลวของรัฐบาลตุรเคีย ในการให้สัตยาบันเกี่ยวกับพิธีสารภาคยานุวัติของนาโต สำหรับสวีเดนและฟินแลนด์ คุกคามเอกภาพของกลุ่มพันธมิตร ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงแบบทวิภาคี ที่จะมีประสิทธิผลและมีประโยชน์ร่วมกับตุรเคีย อยู่ในความสนใจของสหรัฐ ซึ่งเมื่อนำความล้มเหลวนี้มาพิจารณา ทำให้สภาคองเกรสไม่สามารถพิจารณาการสนับสนุนในอนาคตสำหรับตุรเคีย รวมถึงการจำหน่ายเครื่องบินขับไล่ F-16 จนกว่าตุรเคียจะเสร็จสิ้นการให้สัตยาบันได้
ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ไล่ตุรเคียออกจากโครงการ F-35 เนื่องจากตุรเคียไปซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่ผลิตในรัสเซีย แต่ในขณะนี้ ทั้ง 2 ได้มีการเจรจาสำหรับการซื้อขายเครื่องบินขับไล่ F-16 ใหม่ 40 ลำ พร้อมชุดอุปกรณ์ใหม่ 79 ชุด ซึ่งการซื้อขายนี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสก่อน อย่างไรก็ดี ทางสภาครองเกรสก็ต้องการให้เกิดการแลกเปลี่ยนกับตุรเคีย โดยต้องการให้ตุรเคียยอมรับสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมนาโต ก่อนที่จะซื้อ F-16 ได้
ทั้งนี้ ทางตุรเคียก็รู้สึกถึงความกดดันที่ทวีคูณขึ้น เพราะขณะนี้สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เบลเยียม และอีกหลายประเทศ ประกาศปิดสถานกงสุลของตนในเมืองอิสตันบูลของตุรเคียเป็นการชั่วคราว และก่อนที่จะเกิดการปิดกงสุล บางประเทศเช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหรัฐ ก็ได้ออกมาเตือนพลเมืองของตน ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการโจมตีในตุรเคีย โดยกลัวว่ากลุ่มหัวรุนแรงจะทำการตอบโต้ตะวันตก จากเหตุเผาคัมภีร์อัลกุรอานในยุโรปช่วงไม่นานนื้
ด้านนายสุไลมาน ซอยลู รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงความเห็นลงทวิตเตอร์ว่า สถานเอกอัครราชทูตกำลังทำสงครามจิตวิทยาครั้งใหม่ กับตุรเคีย ซึ่งซอยลูได้กล่าวขยายความในเวลาต่อมาว่า ในวันที่ตุรเคียประกาศเป้าหมายของเราในการดึงดูดนักท่องเที่ยว 60 ล้านคนต่อปี พวกเขาก็เริ่มทำสงครามจิตวิทยากับตุรเคีย