ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศษฐกิจ นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายพรชัย แก้วกมลศรีสุข ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ได้ที่บ้านพัก ย่านพุทธมนฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง และพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน” พร้อมทั้งทรัพย์สินหลายรายการ ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น X3 จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 320D จำนวน 1 คัน เอกสารข้อตกลง จำนวน 1 แผ่น สุมดบัญชี TMB จำนวน 1 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 7 เล่ม เอกสารต่างๆ จำนวน 1 ชุด และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 14 pro จำนวน 1 เครื่อง
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ธนาคาร รับมอบอำนาจจากธนาคาร เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีที่ลูกค้าของธนาคาร ซึ่งเป็นคุณยายวัย 80 ปี เข้ามาร้องเรียนธนาคารว่า เงินในบัญชีหายไป จำนวน 2 ล้านบาท จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 10:45 น. ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ย่านถนนประชาอุทิศ เพื่อเปิดบัญชีออมทรัพย์ สมัครบัตรเดบิต และถอนเงินเพื่อจะโอนเงินไปยังบัญชีที่เปิดใหม่ และโอนให้กับบุตรชาย
แต่ทาง นายพรชัย ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการคอยให้บริการกับลูกค้า ในวันเวลาดังกล่าว ได้เข้ามาดูแล และช่วยทำธุรกรรมให้ โดยนายพรชัยฯ ได้ให้นำเอกสารมาให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อ จำนวน 2 ฉบับ โดยได้แอบนำใบคำขอถอนเงินโดยเขียนยอดเงินจำนวน 2 ล้านบาท มาให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อด้วย จากนั้นได้ถอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย จำนวน 2 ล้านบาท และนำสมุดบัญชี และบัตรเดบิตมามอบคืนให้กับผู้เสียหาย และจากการตรวจสอบพบว่า ใบคำขอถอนเงินดังกล่าวได้สูญหายไปจากธนาคารสาขา
ต่อมาผู้เสียหาย ได้ตรวจพบว่าเงินในบัญชีของตนเองหายไป จำนวน 2 ล้านบาท จึงได้ร้องเรียนกับทางธนาคาร ว่าตนเองไม่เคยเบิกถอนเงินสดยอดดังกล่าวมาก่อน ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ นายพรชัยฯ จนกระทั่งวันนี้ ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น และจับกุมนายพรชัยฯ พร้อมทั้งตรวจพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ เบื้องต้น นายพรชัยฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ พร้อมทรัพย์สินที่พบส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พันตำรวจเอก เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ5 บก.ปอศ. กล่าวว่า ในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร อาศัยความสนิทสนม และความไว้ใจของลูกค้าธนาคารซึ่งเป็นผู้สูงอายุ จึงฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ ถึงแม้ว่าในชั้นนี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ประกอบกับในคดีนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง และเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบทรัพย์สินต้องสงสัยถึงการได้มาจำนวนหลายรายการ น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนหลายครั้ง ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสวบสวนขยายผลดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ จึงขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงิน การลงลายมือชื่อทุกครั้งให้ตรวจสอบโดยละเอียด และอย่าหลงเชื่อหรือไว้ใจแม้เป็นพนักงาน หรือลูกจ้างของสถานบันการเงินนั้นๆ ทุกครั้งที่ใช้บริการ หรือทำธุรกรรมควรมีบุตรหลาน หรือญาติที่มีความรู้ และรอบคอบไปด้วย หากมีเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง