ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 ก.พ. 2566 มีชาวบ้านบ้านดอนจันทร์ หมู่ 12 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จำนวนมากพากันมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ทางราชการขับไล่ชายคนหนึ่งออกไปจากหมู่บ้าน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของชายคนดังกล่าว ซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โดยทุกวันทั้งเช้า – เย็น และช่วงกลางคืน ชายคนดังกล่าวจะขับขี่รถตระเวนไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เพื่อดูว่าที่บ้านของชาวบ้านหลังใดมีควันไฟขึ้นมา หากพบว่าบ้านหลังใดมีการเผาขยะ หรือว่ามีการเผาถ่านมีควันไฟขึ้นมา ชายคนดังกล่าวก็จะเข้าไปด่าว่าชาวบ้านอย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำที่หยาบคายมาก และได้ถือปืนในมือพร้อมยิง และข่มขู่ชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องทนต่อความเดือดร้อนมานานนับปีแล้ว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านดอนจันทร์ หมู่ 12 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยบรรยากาศภายในหมู่บ้านปรากฏว่า ได้มีชาวบ้านรวมตัวจับกลุ่มกันพูดถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น และชาวบ้านหลายคนยังเกิดอาการหวาดกลัวว่าจะได้รับอันตราย
นางภคภรณ์ ศิริจันทร์ อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนจันทร์ หมู่ 12 น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์นี้ แม้จะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจริงๆ แล้วปัญหาเรื่องการเผานั้น หมู่บ้านของเราไม่ได้เผาถ่านเป็นอาชีพ เผาแค่พอได้ใช้ในครัวเรือน ซึ่งหลังจากหน่วยงานราชการได้แจ้งเรื่องการห้ามเผา ทางหมู่บ้านของเราก็ได้ลดลง ซึ่งจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 ในตอนนี้สิ่งที่ชาวบ้านกลัวที่สุดก็คือ เรื่องของอาวุธปืน เพราะถ้าชายคนดังกล่าวนั้น รอดพ้นจากคดีออกมา ชาวบ้านจะปลอดภัยหรือไม่ และหากเขามากราดยิงจะทำเช่นไร ซึ่งอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ดำเนินการ และชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบ เพราะยังมีชาวบ้านเป็นจำนวนมากที่หวาดกลัวในเรื่องนี้อยู่
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของชายคนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่า ไม่ได้อยู่บ้านแต่อย่างใด โดยมีการปิดบ้านไว้อย่างมิดชิด และล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามกับเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ได้คลุกคลีกับชายคนดังกล่าว แต่จากการสังเกตลักษณะนิสัย จะเห็นได้ว่าเป็นคนพูดจาโผงผาง โวยวาย เสียงดัง และจะโวยวายเวลามีใครเผาสิ่งของต่าง ๆ จึงทำให้ไม่มีใครอยากยุ่งด้วย ซึ่งปกติเขาจะอาศัยอยู่บ้านในตัวเมืองมากกว่า ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ประจำ
ทางด้าน พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ประสานติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และจะมามอบตัวภายใน 1 – 2 วันนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ทำการสอบสวน และแจ้งข้อหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาวุธปืน การข่มขู่ชาวบ้าน และ เรื่องการบุกรุกเคหะสถาน ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในเรื่องนี้ต่อไป
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ