นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทนายความ เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ นายเอกลักษณ์ วารีชล เนื่องจากถูกทั้ง 2 คน กล่าวใส่ร้ายป้ายสี อันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และการนำข้อเท็จจริงที่ไม่ได้รับการตรวจสอบมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ถือมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศ
นายเสกสกล เปิดเผยการถูกใส่ร้ายป้ายสีในครั้งนี้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนายวีระ สมความคิด และนายเอกลักษณ์ วารีชล กล่าวหาว่าตนไปตบทรัพย์ผู้รับเหมารายใหญ่ในโครงการก่อสร้างในงานกทม. แต่สุดท้ายความจริงปรากฏโดยผู้รับเหมาคนดังกล่าวมาเป็นพยานให้ตน และไม่เคยบอกว่าตนไปตบทรัพย์แม้แต่เพียงบาทเดียว ทำให้นายเอกลักษณ์ วารีชลเสียหน้า และมาทักท้วงทวงถามเงินจากตน และตนอยากให้นายวีระ สมความคิด ได้ไปติดตามพฤติกรรมของนายเอกลักษณ์ วารีชล หรือนายเอกปากน้ำ ให้ดีๆเสียก่อน เพราะคดีดังกล่าวที่มากล่าวหาตนนี้ มีความคืบหน้าไปไกลแล้ว เพราะตนได้ไปแจ้งความไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 และสน. ดุสิตก็ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ซึ่งก็คือนายเอกลักษณ์และพวก ไปเรียบร้อยแล้ว ตนไม่ทราบว่าเหตุใดนายวีระ สมความคิดจึงไม่ตรวจสอบพฤติกรรมของคนนี้ก่อน ส่วนตัวมองว่านายวีระไม่ได้มีค่าสำหรับตน ไม่ได้มีค่าเพียงพอที่จะต้องเข้าไปเคลียร์ เพราะอดีตคุณคือเคยติดคุกเขมรมาแล้ว เหตุใดจึงต้องมาเป็นเครื่องมือให้กับคนดังกล่าวนี้