ส่งสาสน์ท้ารบไปถึงอดีตนายเก่า “ทักษิณ ชินวัตร” ได้อย่างแสบสันมากขึ้นทุกวันสำหรับ “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตประธาน นปช. ที่ออกมาโยนระเบิดลูกใหญ่ใส่เต็มไม่มียั้งมือ โดยเปิดประเด็นเด็ดเชือดนิ่ม ๆ “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทยไม่มีวัน “แลนด์สไลด์” อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ “จตุพร” โพสต์เฟซบุ๊กไลฟว์ในรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “สุดโต่ง” โดยแจกแจงให้เห็นถึงปัจจัยที่ “เพื่อไทย” จะไม่มีวันไปถึงฝั่งฝัน โดยยิงตรงไปถึงอดีตนายเก่าว่า ทักษิณรู้อยู่แล้วเพราะกระแสนิยมของเพื่อไทยไม่ดีเหมือนในยุคแรกพรรคไทยรักไทย ซึ่งการเลือกตั้งในปี 2544 สามารถกวาด ส.ส.ได้สูงถึง 248 ที่นั่งจนเป็นที่มาของคำว่า “ผู้แทนนกแล” ที่ไม่ต้องมีชื่อเสียง โนเนม ไม่เคยเป็น ส.ส. หรือมากบารมี แต่สามารถโค่น ส.ส.ระดับบิ๊ก เดินเข้าสู่สภาเพราะกระแสนิยมของพรรคการเมือง หรือกระแสชื่นชมในตัวหัวหน้าพรรคที่สิงสถิต เฉกเช่นกระแส “จำลองฟรีเวอร์” ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2535 พรรคพลังธรรมได้รับคะแนนความนิยมสูงสุดในพื้นที่กรุงเทพ ฯ โดยสามารถกวาดที่นั่งได้ถึง 32 ที่นั่งจาก 35 ที่นั่ง
นอกจากนี้ “จตุพร” ยังตอกหมุดให้เห็นถึงความไม่มั่นใจของทักษิณที่ตอนนี้สนแต่เป้าไม่เอาอุดมการณ์โดยเลือกใช้วิธีดึงบ้านใหญ่ให้มาร่วมกับพรรคเพื่อไทยด้วยการใช้ทุกวิถีทางโดยไม่สนใจว่าจะต้องเขี่ยคนในพรรออกไปอย่างไม่แยแส โดยจตุพรยกเหตุการณ์ที่จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดกาฬสินธุ์ เปรียบเทียบเห็นภาพ
ทั้งนี้ในจังหวัดอ่างทองเป็นปรากฎการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดอ่างทองนับ 100 คน รวมตัวแสดงจุดยืนในการคว่ำบาตรพรรคเพื่อไทยหลังจากลงมีมติ ไม่ส่ง “โยธิน เปาอินทร์” หลานชาย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.อ่างทองเขตที่ 1 แต่ไปมีมติส่ง “ชูศักดิ์ ศรีราชา” อดีต ส.ว.อ่างทองบ้านใหญ่ในพื้นที่อ่างทองลงสมัครแทน เพราะมีเป้าหมายหลักต้องการโค่นเข้าของพื้นที่ตระกูล “ปริศนานันทกุล” ที่ครองแชมป์มานับสิบปี
ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จตุพร ชี้ให้เห็นถึงความพิลึกที่เพื่อไทยไปดึงคนจากภูมิใจไทย แต่กลับมีดีลต่อรองที่น่าแปลกประหลาดที่สุดคือคนจากภูมิใจไทยจะจูงมือลูกชายมาด้วยอีก 2 คน พร้อมยื่นข้อเสนว่า ตนเองจะลง ส.ส.เขต และให้ลูกชายทั้งสองคนลง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งการมาของบุคคลทั้งสามทำให้แกนนำเพื่อไทยต้องหั่นผู้สมัครที่เคยวางตัวไว้ถอยฉากออกไปก่อน