“โฆษกสนง.สลากฯ” เร่งปราบออนไลน์เถื่อน-ลุยยึดโควตาเพิ่มหวยแอปเป๋าตัง

“ดร.ธนวรรธน์” ลั่นแพลทฟอร์มออนไลน์ หลบข้อกฎหมายขายสลากฯ บวกค่าบริการเก็บสลากฯ ค่าจัดส่ง เจอแจ้งความดำเนินคดี ชี้แม้ปิดกองสลากพลัส ไม่ได้ทำให้สลากดิจิทัลขายหมดเร็วขึ้น พร้อมขอประชาชนปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา 80 บาททุกรูปแบบ หวังช่วยแก้สลากเกินราคาในระยะยาว ระบุยังไม่ได้รับหมายเลขสลาก ที่เข้าตรวจค้นกองสลากพลัส ประมาณ 11 ล้านฉบับ

สืบเนื่องจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง บูรณาการทำงานร่วมกันในการปราบปราม แก้ไข การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาควบคุม โดยเฉพาะการนำแพลตฟอร์มออนไลน์ มาเป็นเครื่องมือต่อรองนำไปสู่การขอบวกเพิ่มค่าบริการ จนสามารถสร้างยอดกำไรเป็นมูลค่ามหาศาล รวมถึงยังตรวจสอบพบว่ามีเส้นทางการเงินเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรม และ การฟอกเงินผิดกฎหมาย

ล่าสุด ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุถึงความคืบหน้าการปัญหาสลากฯเกินราคา ว่า ปัจจุบันแม้มีการปิดแพลตฟอร์มซื้อขายสลากฯออนไลน์ อย่าง กองสลากพลัส ไปแล้ว แต่ในตลาดออนไลน์ยังคงมีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ขายสลากฯในรูปแบบเกินราคาควบคุมตามกฎหมาย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การปิดบางแพลตฟอร์มสลากออนไลน์บางแห่ง ไม่ได้ทำให้สลากฯออนไลน์ขายเกินราคา หมดหายไปจากตลาดการค้าทั้งหมดทันที

โดยเฉพาะช่วงนี้จะเริ่มเห็นสลากฯจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เข้ามาทดแทน แต่จากการตรวจสอบถือว่าไม่ได้มีจำนวนมากมาย ขณะที่ราคาในตลาดขายส่งยังคงสูง การขายเกินราคายังคงเกิดขึ้น ดังนั้นสจึงต้องเร่งปราบปรามกันต่อไป โดยยังไม่มีสถานการณ์ชี้ให้เห็นว่า สลากฯไปหายไปจากตลาด สลากฯเหลือทิ้งตามแผง หรือกลไกราคาผิดเพี้ยน โดยประชาชนยังมีพฤติกรรมการซื้อสลากเป็นปกติ

ส่วนกรณีที่ กองสลากพลัส โดนปิดแพลตฟอร์มและเว็บไซด์ชั่วคราว แต่มีแพลตฟอร์มอื่นปรับรูปแบบการขายเพื่อหลบข้อกฎหมาย ไม่ขายสลากเกินราคา แต่บวกค่าจัดส่งสลากฯ บวกค่าบริการการเก็บสลากฯ ส่งผลให้เมื่อรวมกับค่าบริการแล้ว สลากฯ ยังคงเกิน 80 บาท ดร.ธนวรรธน์ ย้ำว่า สิ่งที่ตีความจากคำสั่งของศาล หรีอคำวินิจฉัยจากการฟ้องดำเนินคดีจากพื้นที่นครปฐม เรื่องการขายสลากฯ 80 บาท แม้ว่ารวมค่าบริการใดๆ ถือว่าเป็นการขายเกินราคา ย่อมเป็นมาตรฐานในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้อย่างชัดเจน

 

 

โดยวิธีที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. การพูดกับหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการส่งจดหมายทางตรงในบางช่วง 2. การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านสาธารณชน บอกว่า การดำเนินธุรกิจควรยึดมั่นคุณธรรม และจริยธรรม ควรสอดรับกับกฎหมาย คือขายราคา 80 บาททุกแพลตฟอร์ม

แต่หากแพลตฟอร์มขายสลากฯออนไลน์ ยังมีการขายเกินราคา ทางสำนักงานสลากฯก็พร้อมจะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกแพลตฟอร์มทุกงวด และมีการปรับทุกงวด เพียงแต่โดยข้อกฎหมายการปรับมีข้อกำหนดเรื่องวงเงินค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้กระทำผิดยังคงจะเดินหน้าขายสลากฯในราคาแพงต่อไป ดังนั้นวิธีการที่จะมีการปรับใช้ก็คือนำข้อกฎหมายหลายๆส่วนมาพิจารณาปรับใช้พร้อมกัน

ช่นการขอให้ทางกระทรวงดีอีเอส และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิจารณาว่ามีกระบวนการอื่น ๆ ในการตรวจสอบ อย่างกรณี การขายให้เยาวชน การขายเกินราคาเป็นอย่างไร ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงดีอีเอส จะมีการพิจารณาผลกระทำผิด เพื่อนำไปสู่การปิดเว็บไซต์ โดยทุกหน่วยงานจะยึดตามกรอบของกฎหมายที่ตนเองมี เพราะหากไม่ดำเนินการ ก็จะเป็นการละเลยการทำงานตามมาตรา 157 ความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ในส่วนของการรับฝากขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ของแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยวางตัวเป็นตลาดกลาง และเก็บค่าเช่าแผง เช่าที่ นั้น ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า เนื่องจากศาลชั้นต้น มีการวินิจฉัยใน 2 แพลตฟอร์ม ว่า การรับฝากขายไม่ผิด ซึ่งตอนนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กำลังอุทธรณ์ และให้ข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลฯ ตัดสินว่า การรับฝากขายไม่ผิด ทำให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นดาษดื่น เพราะมีการวินิจฉัยในศาลชั้นต้นไปแล้ว โดยการกระทำดังกล่าว ไม่ได้ผิดกฎหมายในแง่ของมาตรา แต่ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะกฎหมายให้คุ้มครองการดำเนินการในการขยายสลากสุดท้ายในราคา 80 บาท ซึ่งประเด็นนี้คงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลในแง่ของการรับฝากซื้อ ในแง่ของเว็บไซต์ และการทำผิดกฎหมาย ต่อไป เว้นแต่ถ้าเป็นเรื่องการกระทำผิดพ.ร.บ.การพนัน จะสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ทันที

ขณะที่ เรื่องการตัดโควตาของตัวแทนที่ทำผิดเงื่อนไขนั้น ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า สำนักงานสลากฯ มีการตัดโควตาอย่างถาวร สำหรับคนขายสลากฯเกินราคา ทั้งฝากขายไปยังแพลตฟอร์ม และขายเอง สะสมตั้งแต่ปี 65 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วกว่า 20,000 ราย รวมในส่วนของโควตาที่มีการขายให้กองสลากพลัสแล้ว

ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้น บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ซึ่งพบสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 17 มกราคม 2566 ในระบบประมาณ 11 ล้านฉบับ นั้น ล่าสุด ทางสำนักงานสลากฯ ยังรอหมายเลขสลากฯล็อตดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจสอบก่อนสั่งการให้มีการตัดโควตาทิ้ง เพราะมีมติบอร์ดฯ ชัดเจนว่า ถ้าฝากขายในแพลตฟอร์ม ต้องตัดโควตาทันที และก่อนหน้านี้ พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ทางแพลตฟอร์มเอกชนจะส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้ สำนักงานสลากฯ ภายในวันที่ 20 ม.ค.2566

 

 

สำหรับประเด็นผู้ต้องการกดจองซื้อสลากฯ ระบุว่ากดจองซื้อสลากฯเป็นไปได้ยาก หมดไว ทำให้ต้องมานอนเฝ้าตู้ ATM เพื่อกดให้ทัน นั้น ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า เรื่องนี้ เป็นปัญหาทางโครงสร้างต้องแก้แบบค่อยเป็นค่อยไป อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลทุกประเทศไม่ต้องการให้การพนันเกิดขึ้นมากมาย จึงดูแลให้สลากกินแบ่งฯมีปริมาณเหมาะสม โดยปัจจุบัน พิมพ์ 100 ล้านใบ แต่มีกลุ่มห่วงใยสังคมบางกลุ่มนำไปวิพาษ์วิจารณ์ว่า สำนักงานสลากฯมอมเมาสังคม โดยจากข้อมูลการพิมพ์สลากฯ 100 ล้านใบ มีคนต้องการขายสลากฯ ลงทะเบียนล่าสุดในปี 2565 จำนวน 1 ล้านคน แต่จัดสรรให้ได้เพียง 2 แสนคน คนละ 5 เล่ม และจะมีรายได้เดือนละประมาณ 9,000 กว่าบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับคนทำอาชีพขายสลากในการประทังชีวิต เป็นอาชีพเสริม แต่จะไม่สามารถทำกำไรได้มากมาย หรือสร้างความร่ำรวยได้

ดังนั้นเมื่อมีคนต้องการขายมีมากกว่า 2 แสนคน ปัญหา คือ เมื่อจัดสรรให้ได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงมีการไปจองคิวกดตู้ ATM อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะยังไม่มีการเพิ่มจำนวนสลากฯ เพราะจะเห็นว่าวันสิ้นงวด ยังมีสลากฯเหลือแผงอยู่จำนวนหนึ่ง จึงอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า “ถ้าท่านไม่มีสลากฯ และสามารถที่จะหาอาชีพอื่นได้ ก็อยากขอให้ท่านให้ประกอบอาชีพอื่น ประกอบกันไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะเข้ามาอยู่ในวังวนของการซื้อราคาแพง ขายแพง และผิดกฎหมาย / แต่หากยังต้องการขายสลากฯ ทางสำนักงานสลากฯ ก็เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ N3 เข้ามาดูแลในการเพิ่มสลากให้ประชาชน พร้อมย้ำสำหรับประชาชนทั่วไป หากอยากได้ราคาสลากฯในราคาควบคุม 80 บาท สำนักงานสลากฯอยากให้ซื้อผ่านแอปเป๋าตังเป็นหลักก่อน

 

 

ดร.ธนวรรธน์ ระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ยังมีการรวมชุดสลากฯ จากพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เคยชินกับการซื้อสลากฯ ส่งผลให้มีการขายสลากเกินราคาฯ สำนักงานสลากฯพยายามแก้ปัญหาด้วยการนำสลากฯรูปแบบใหม่อย่าง N3 และ L6 เข้ามา รวมถึงแผนการเพิ่มจำนวนสลากฯดิจิทัล เป็น 50 ล้านใบ ในปี 68 หรือภายใน 3 ปี เมื่อสลากฯอยู่ในระบบดิจิทัล 50% ราคาข้างนอกก็น่าจะลดลงไปเป็นลำดับเอง

“ยอมรับว่า ปัญหาสลากฯเกินราคา จะยังไม่หมดไป ตราบใดที่มีคนขาย มากกว่าคนซื้อ หรือ คนขายต้องการ 500 ล้านใบ ต้องการคนละ 5 เล่ม จำนวน 1 ล้านคน แต่คนซื้อต้องการแค่ 100 ล้านใบ และเมื่อขายเกินราคามีคนซื้อ คนขายก็พร้อมจะซื้อแพงแล้วนำมาขายต่อ แต่หากสำนักงานสลากฯ นำสลาก 100 ล้านใบ เข้าระบบดิจิทัล ปัญหาสลากฯเกินราคาจะหมดไป แต่อาจทำให้ประชาชนที่ไม่คุ้นเคยกับสลากฯดิจิทัล หันไปเล่นการพนันอย่างอื่น / คนขายบางกลุ่ม ก็จะไม่มีอาชีพ / บางกลุ่ม ก็ไม่อยากขายในระบบดิจิทัล เพราะกำไรน้อย ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถทำให้มีคนขายในระบบดิจิทัลได้ 100%

ต่อคำถามที่ว่า ปัญหาสลากฯเกินราคาที่ยังเกิดขึ้น เพราะกฎหมายมีบทลงโทษเบาไปหรือไม่ ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า ต้องเข้าใจว่า สลากกินแบ่งฯ ตอนที่มีการปรับแก้ไขกฎหมาย เดิมในช่วงหนึ่ง ถ้าคนขายเกินราคาจะมีโทษจำคุก 1 เดือน เพื่อป้องปรามให้หลาบจำ ซึ่งไม่เคยมีการจำคุกเลย แต่เป็นการป้องปรามทั้งแพ่งและอาญา แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในการแก้ไขกฎหมายก็มีการตั้งกระทู้ว่า เค้าไม่ได้ฆ่าใคร จี้ปล้นใคร อย่าไปลงโทษทางอาญาเลย สังเกตว่า ผู้ออกกฎหมายมีแนวคิดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องรุนแรง การปรับสูงสุด 1 หมื่นบาทเพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม จะเห็นการใช้กฎหมายอื่นๆ เข้ามาร่วมในการจัดการด้วย เช่น เรื่องพนัน การพัวพันกับการฟอกเงิน ซึ่งโทษหนักกว่าหลายเท่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น