เช็คด่วน 7 ข้อ เพิ่มความปลอดภัย "ตัวตนออนไลน์" ไม่ให้หลุดเป็นสาธารณะ โดนคุกคามโดยโฆษณาออนไลน์ แฮกเกอร์ขโมยข้อมูล
ข่าวที่น่าสนใจ
เพิ่มความปลอดภัย “ตัวตนออนไลน์” ไม่ให้หลุดเป็นสาธารณะ ดังนี้
ตั้งรหัสผ่านที่เดายาก ไม่ใช้ซ้ำ และหมั่นเปลี่ยนอยู่เสมอ
- รหัสควรมีความยาวอย่างน้อย 12 – 14 ตัวอักษร ประกอบไปด้วย ตัวอักษรใหญ่ ตัวอักษรเล็ก ตัวเลข และไม่ควรใช้ซ้ำกับ Online Account อื่น ๆ ที่สำคัญควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำทุก 3 – 6 เดือน เพื่อป้องกันกรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูลโดยที่เราไม่รู้ตัว
หมั่น Update ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์
- การที่เราหมั่น Update แพทช์ ก็จะช่วยปิดช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถเข้ามายังระบบได้ และ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้มีความปลอดภัยระบบมากขึ้น หรือหากระบบปฏิบัติการผิดพลาดจนไม่สามารถใช้งานได้ เราจะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที
หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ
- ทางที่ดีควรใช้อินเทอร์เน็ตเครือข่ายมือถือของตัวเอง หากไม่มีทางเลือกควรใช้ VPN (Virtual Private Networks) ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมออนไลน์ทั้งหมดจะปลอดภัยตั้งแต่ ธนาคารออนไลน์ไปจนถึงข้อความส่วนตัว
อย่าแชร์ทุกอย่างที่คิด ก่อนแชร์ให้คิดก่อนเสมอ
- การแชร์ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดแบบสาธารณะ แชร์ Location ที่อยู่อาศัยของตัวเอง ฯลฯ อาจเป็นการแบ่งปันข้อมูลให้กับแฮกเกอร์ หรือ คนแปลกหน้าก็ได้ ทางทีดีควรคิดก่อนแชร์เสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
จดบันทึกประวัติการใช้งานทางการเงิน
- การจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้น เพื่อป้องกันยอดเงินแปลก ๆ ที่หักเงินในบัตรเครดิตเราแบบที่ไม่รู้ตัว และที่สำคัญไม่ควรผูกเลขบัตรเครดิต เลขบัญชีธนาคารลงในเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ หรือ เว็บไซต์ Social ต่าง ๆ เพราะหากโดนแฮกบัญชี สิ่งพวกนี้คือเป้าหมายแรกของแฮกเกอร์ในการขโมยข้อมูล
ตรวจสอบประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตเสมอ
- เพื่อป้องกันการติดตามต่าง ๆ และป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลบนโลก Social (ข้อมูลส่วนตัวที่คุณโชว์ไว้บน Profile Digital ต่าง ๆ) ของเราเพื่อรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดตามออนไลน์ที่ถูกคุกคามโดยโฆษณาออนไลน์ต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสม
ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยในทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
- ถ้าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ชิ้นนั้น สามารถออกสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้ ต้องป้องกันทั้งหมด เพราะทุกการเชื่อมต่อมีภัยแฝงเสมอ การเลือกระบบรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง