เป็นหนึ่งในอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ยุคก่อตั้งเรื่อยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย (พท.) ยุคปัจจุบัน สำหรับ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่แม้วันนี้จะตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านเก่าแบบเจ็บช้ำ ก่อนจะมาสร้างบ้านใหม่ตั้งพรรคของตัวเองลงเล่นการเมืองเป็นทางเลือกให้กับคนไทย แต่ถึงกระนั้นความทรงจำเก่าๆที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยคอกทักษิณก็ยังไม่จางไปจากใจสตรีเหล็กทางการเมืองอย่างเจ๊หน่อยย วานนี้เจ๊หน่อยพาคณะแกนนำทสท.ลงพื้นที่หาเสียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แผ่นดินอีสานฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเดิมพันการเลือกตั้งที่จะอุบัติขึ้นในเวลาอันใกล้
ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงและชาวบ้านที่มารอรับมารอดูว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกฯที่เป็นสตรีลูกอีสานกว่า ๕๐๐๐ คน เจ๊หน่อยย้อนอดีตความเจ็บปวดที่ต้องเดินออกจากบ้านใหญ่ถูกไล่ออกจากพท.แบบเจ็บช้ำให้ชาวบ้านฟังว่า ” หลายคนถามว่าทำไมออกจากบ้านใหญ่ บ่ได้ออกเองค่ะ เขาให้ออกก็ออกมาด้วยน้ำตานี่แหละ เหมือนกับหลายๆคนก็ออกด้วยน้ำตา แต่สุดารัตน์คือคนเดิม ๓๑ ปีที่อยู่ทางการเมือง วันแรกเป็นส.ส.ครั้งแรกก็พฤษภาทมิฬ ดังนั้นวันนี้ตนขอทำ ๓ เรื่องใหญ่ๆ คือ ๑.วันนี้เราต้องคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนให้สำเร็จ ๒. ดูแลปกป้องผลประโยชน์ไม่ให้ถูกกดขี่ถูกโกงถูกรีดไถแบบทุกวันนี้ ขจัดการเอาเปรียบประชาชน ทั้งค่าไฟ ค่าปุ๋ย ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน พวกนี้เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อนายทุนตัวใหญ่ ๓.เราจะสร้างความสุขให้พี่น้องด้วยนโยบายลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการผลิต สร้างบำนาญประชาชน” เจ๊หน่อยเล่าความหลัง
ขนาดเขี้ยวรากดินตัวแม่อย่างเจ๊หน่อย ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองโชกโชนแบบเจ๊หน่อย ยังอยู่ไม่ไหวทนไม่ได้กับคอกพท.ฝ่ายทักษิณ ย้อนอดีตบทสุดท้ายที่ทำให้เจีหน่อยแตกหักกับทักษิณและคุณหญิงพจมาน ช่วงปี ๒๕๖๒ อย่างที่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ เจ๊หน่อยถูกทักษิณหลอกว่าจะให้เป็นนายกฯของพท.แรกๆบอกจะเสนอชื่อเจ๊หน่อยคนเดียวเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ แต่พอเอาเข้าจริงก็สับขาหลอกส่ง ๓ ชื่อ คือ “เจ๊หน่อย -ชัชชาติ -ชัยเกษม” ความจริงไม่เคยมีจากปากแม้ว เจ๊หน่อยก็ต้องเจ็บช่้ำกล่ำกลืน หนักไปกว่านั้นพอใกล้ถึงการเลือกตั้งจริงๆทักษิณยังแตกยุทธศาสาตร์ “แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย” ด้วยการตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทสช.) ให้พวกลูกหลานแถว ๒ แถว ๓ และพวกเลือดใหม่ไปดูแล ที่เหลี่ยมจัดร้ายไปกว่านั้นทักษิณดันเล่นของสูงคิดดึงฟ้าต่ำด้วยการไปเชิญ ทูลกระหม่อมฯอุบลรัตน์ฯ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯของทสช. ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เหาจะกินหัว สุดท้ายก็โดนฟ้าผ่าเจอพระบรมราชโองการเบรกไม่ให้เอาสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง สะเทือนสะท้านกันทั้งแผ่นดินในช่วงดึกคืนวันเดียวกับที่ไปสมัครกับกกต.
พอศาลรัฐธรรมนูญฟันคอทสช.ไป เจ๊หน่อยก็มีความหวังว่าจะได้รับการโปรโมตให้เป็นนายกอีกครั้ง แต่พอถึงเวลาโหวตเลือกนายกฯกันจริงๆ พท.กับเทคะแนนให้ “ทอนล้มเจ้า” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อคม.) แทนที่จะโหวตให้กับว่าที่นายกฯของพรรคอย่างเจ๊หน่อย เจอทักษิณแทงหลัง ๒ ดอกไปติดๆเจ๊หน่อยถึงกับกระอักเลือด หลังจบศึกเลือกตั้งทักษิณหน้าเหลี่ยมหัวหมอคอสั้นก็รู้อยู่แล้วว่าทำบาปสร้างกรรมกับเจ๊หน่อยไว้มาก เที่ยวนี้ก็เลยต้องการประสานประโยชน์ รวมรวมคนในพท.ให้เป็นปึกแผ่นเพื่อต่อสู้กับบิ๊กตู่ที่ขึ้นเป็นนายกฯสมัย ๒ เที่ยวนี้เลยตบหัวแล้วลูบหลังด้วยการตั้ง “เสี่ยป็อป” อนุดิษฐ์ นาครทรรพ มือขวาลูกรักของเจ๊หน่อยขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค หวังซื้อใจเจ๊หน่อยสงบศึกกับเจ้าแม่กทม. ช่วงนี้แหละที่ทำให้บารมีของเจ๊หน่อยเริ่มเบ่งบานคับพท. จนทำให้พวกนักรบห้องแอร์สายนายหญิงพจมานอย่าง “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชชยชัย “หมอเลี๊ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี “หมอมิ้งค์” นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฯลฯ ถูกลดบาทบาทไปเป็นอย่างมาก เรียกว่าแทบจะไม่มีที่ยืนในพรรค หนักข้อถึงขั้นมีข่าวว่าภูมิธรรรมกับแกนนำหลายคนอาจลาออกไปตั้งพรรคใหม่หากเจ๊หน่อยยังเลืองอำนาจต่อไปในพท. มีการไปตั้งกลุ่มแคร์ (CARE) คิดเคลื่อนไทยขึ้นมาเพื่อเอาไว้สื่อสารทางการเมืองถึงประชาชนแทนที่จะทำผ่านพท.
สุดท้ายก่อนที่พท.จะแตกหักกงสีจะพังพาบก็เป็นคุณหญิงพจมานที่ต้องออกโรงไดร์ผมตีโป่งออกรถจากบ้านจันทร์ส่องหล้ามาแก้ไขปัญหาภายในพรรคด้วยตัวเอง ด้วยการแก้เกมสั่งยึดอำนาจจากเจ๊หน่อยมาทั้งหมด ปรับเปลี่ยนเลขาฯพรรคเขี่ยอนุดิษฐ์พ้นวงโคจรกก.บห. เอาเด็กในคาถาอย่างประเสริฐ จันทรรวงทอง มาเป็นเลขาฯแทน ตัดมือตัดไม้เด็กเจ๊หน่อยล้างบางก๊วนคุณหญิงสุดารัตน์พ้นจากแกนนำพรรคยกกะบิ เจ๊หน่อยโดนตัดมือตัดตีนเรียบวุธ จะสมัครผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่ได้ จะขอคุมพื้นที่เมืองหลวงก็ไม่อนุญาต ลงไปหาเสียงช่วยลูกพรรคในต่างจังหวัดแค่เลือกตั้งระดับท้องถิ่นก็ยังทำไม้ได้โดนปรามโดนสั่งเบรกเรียบวุธ เจ๊หน่อยโดนอิทธิฤทธิ์นายหญิงตัดมือตัดขาจนเป็นง่อยๆ แถมในพรรคตอนนั้นอำนาจ ๓ เจ้าแม่ “หญิงอ้อ-เจ๊แดง-เจ๊ปู” ก็ไม่ชอบเจ๊หน่อยอยู่แล้ว สุดท้ายก็ถูกบีบให้ลาออกข่าวว่านายหญิงเรียกเจ๊หน่อยไปคุยที่ตึกชินวัตร ๓ ถนนวิภาวดีรังสิต ที่เป็นเซฟเฮ้าส์ของคุณหญิง ก่อนจะบีบให้เจ๊หน่อยลาออกจากกันด้วยน้ำตาแบบที่เจ๊หน่อยเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด ต้องกลืนเลือดถูกไล่ออกจากพรรคที่ตัวเองตั้งบ้านหลังที่ตัวเองปลูก ๓๐ พ.ย.๒๕๖๓ จึงตัดสินใจไขก๊อกยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพท.แบบตลอดชีพและทุกตำแหน่งในพรรค โดยมีก๊วนแกนนำที่สนิท ๓ คนตามไปด้วย อาทิ “เสี่ยไก่” วัฒนา เมืองสุข โภคิน พลกุล พงศกร อรรณนพพร ฯลฯ โภคินหนึ่งในคนที่มีบุญคุณกับทักษิณที่สุด เพราะเอาข่าวเรื่องลอยตัวค่าเงินบาทมาบอกทักษิณจนทำให้แม้วมีเวลาเก็งกำไรค่าบาทหาทางหนีทีไล่เรื่องนี้เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ได้ทัน ส่งผลให้เสี่ยแม้วรวยอื้อซ่า เปิดใจการไขก๊อกออกจากพท.ประมาณว่าต้องการ “ปลดแอกพรรคทักษิณ ถอยห่างชินวัตร” โดยฟางเส้นสุดท้ายอยู่ที่การปลดเจ๊หน่อยพ้นประธานยุทธศาสตร์พรรค “คือการที่เอาคุณหญิงสุดารัตน์ออก แล้วอธิบายว่า อันนี้เป็นอันที่เขาลงทุนไว้แล้วเขาต้องบริหาร ผมยอมรับไม่ได้ ผมถามว่าแล้วต้นทุนที่คนอื่นจ่ายด้วยการติดคุก เช่น คนเสื้อแดง ที่ยากลำบาก คนเหล่านี้ไม่ได้ลงทุนหรือ เขาไม่ตอบ ผมก็จบ แค่นี้ ผมออกตามคุณหญิง ทั้งที่ผมไม่เคยทำงานกับคุณหญิงมาก่อนในชีวิต มาทำครั้งนี้ จากนี้ไปในพรรคเพื่อไทยเขาจะบริหารพรรคแบบ family ก็เรื่องของเขา แต่จุดยืน ประชาธิปไตยเขาตรงกับเราก็ทำงานกันได้ นโยบายตรงกัน คนได้ประโยชน์เหมือนกัน ไม่ว่ากัน…..ผมอยู่ในองค์กรแบบนั้น ผมก็เหนื่อย เช่นพอตกลงแบบนี้เสร็จ…เดี๋ยวเอาใหม่ พอใครไปวิ่งไปหาก็เปลี่ยน อย่างนี้ไม่ได้ เข้าใจว่ามันต้องมีอะไรระดับหนึ่ง แต่เมื่อตกผลึกก็เดินไป ถ้าผิดพลาดก็แก้ไขซึ่งกันและกัน” โภคินระบุ ทักษิณเจ้าของพรรคตลอดกาล ไม่ว่าตอนเป็นนายกฯหรือตอนเป็นนักโทษ พท.ไม่ใช่สถาบันแต่เป็นพรรคคครอบครัวของตระกูลชินวัตร
////////////////////