พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ช่วงนี้มีแต่ข่าวดีๆเข้าพรรคอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ก็รับกลับ ๓ ขุนพลคนสำคัญของพรรคกลับบ้านเก่า เพื่อผนึกกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการสู้ศึกเลือกตั้ง ประกอบด้วย “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน (ร.ผ.ด.) และก๊วน ” ๒ กุมาร” ประกอบด้วยอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กับ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค โดยทั้ง ๓ คนถือเป็นขุนพลคนสำคัญยิ่งของพปชร. บิ๊กน้อยก็อย่างที่รู้ว่าเป็นนายทหารคนสนิทเป็นฝ่ายเสธ.ที่ใกล้ชิดลุงป้อมมานานทำงานรู้ไม้รู้มือไว้ใจกันเป็นอย่างดี ส่วน ๒ กุมารไม่ต้องบรรยาสรรพคุณเพราะทั้งอุตตมเคยเป็นหัวหน้าพปชร. สนธิรัตน์เป็นเลขาฯ แถมมี ๔ เก้าอี้รัฐมนตรี การันตี ทั้ง “อุตสาหกรรม คลัง พาณิชย์ พลังงาน” การได้ ๓ คนที่กลับมาทำให้ลุงป้อมเสมือนพยัคฆ์ติดปีกทางการเมือง
ลำพังแค่ ๓ เบอร์ใหญ่ที่ว่ายังไม่พอ ล่าสุดพปชร.ยังได้รับ ๑๑ ส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ในกลุ่มของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลับคืนรังสู่บ้านเก่าอีกครั้ง โดยที่ก่อนหน้านี้ ผู้กองก็แอบส่ง ๒ คนสนิทอย่างบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และ พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ กลับเข้าพรรคมาเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดก็เอาที่เหลือกลับมาอยู่ใต้ร่มเงาการดูแลของลุงป้อมทั้งหมด ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส, ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร, จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, เกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา, สถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี, พรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร, ปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน, น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร, นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา, ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, ยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ สมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น เรียกว่าตอนนี้ลุงป้อมมีเครื่องมือในการทำศึกเลือกตั้งครบ ทั้ง “บู๊” และ “บุ๋น”
ล่าสุดหลักได้ขุนพลตัวเอ้ ตัวหลัก ตัวตึง กลับมาพร้อมหน้า ลุงป้อมจึงจัดประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจ ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด โดยเรียกคีย์แมนคำสัญของพรรคมาครบ อาทิ พล.อ.วิชญ์ สันติ พร้อมพัฒน์ วิรัช รัตนเศรษฐ ไพบูลย์ นิติตะวัน ฯลฯ โดยที่ประชุมมีมติมอบหมายให้อุตตมและวราเทพ รัตนากร ดูแลนโยบายพรรคและนโยบายเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้อุตตมยังได้รับมอบให้เป็นตัวแทนดีเบตแทนหัวหน้าพรรคในเวทีเศรษฐกิจ ส่วนมิ่งขวัญดูนโยบายเศรษฐกิจในด้านที่ถนัด นอกจากนี้ยังมีการพื้นที่แต่ละภาคให้แกนนำรับผิดชอบ โดยภาคเหนือตอนบนพล.อ.วิชญ์ และร.อ.ธรรมนัส รับผิดชอบ ภาคเหนือตอนล่างมีสันติ วราเทพเป็นตัวหลัก มีนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลเป็นตัวช่วย ภาคใต้ให้สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค รวมถึง นิพิฏฐ์ และอภิชัย ดูแลไป ขณะที่วิรัช และ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร จะรับผิดชอบอีสานใต้ ชัยวุฒิกับน.ส.ตรีนุช รับผิดชอบภาคกลางและภาคตะวันออก กทม.มีนฤมลกับสกลธีผนึกกำลังกัน ส่วนภาคตะวันตก สนธิรัตน์ จะดูแลเอง
เห็นลุงป้อมแบ่งภาคแบ่งพื้นที่ให้แม่ทัพขุนพลแต่ละคนดูแล มองผ่านๆก็ดูเข้าทีดีแหละ เพราะมีแต่คนดังแกนนำมากบารมีทั้งนั้นที่ลงไปคุมพื้นที่รับผิดชอบแต่ละภาค แต่พอพิจารณาในรายละเอียดจริงๆก็ต้องบอกว่าเหนื่อยเหมือนกันสำหรับลุงป้อม เพราะในรายชื่อส่วนใหญ่มีแต่พวก “ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน” บ้างก็เป็นพวกเคย “ขบเหลี่ยมเฉือนคม” หรือ “พวไม่กินเส้นกัน” แต่ก็ถูกจับเอามารวมกันเป็น “แกงโฮ๊ะ” ผสม “จับฉ่าย” หรืออาจจะเป็นยุทธวิธีของลุงป้อมเจ้าของฉายา “ใจบันดาลแรง” ไล่เรียงจากภาคเหนือจับบิ๊กน้อยไปเข้าคู่กับผู้กองนัส ลูกน้องเก่าหักเหลี่ยมโหดทะเลาะกันถึงขั้นพรรคแตก บิ๊กน้อยต้องลาออกหนีจากหัวหน้าศท.เพราะทนความเขี้ยวรากดินเหลี่ยมจัดของร.อ.ธรรมนัสไม่ได้ ตอนนั้นก็หักกันมาทีนึงแล้วรอบนี้ลุงป้อมให้กับมาอยู่คู่กันอีกก็ไม่รู้จะไปตลอดรอดฝั่งไหม ภาคเหนือตอนล่างที่มีสันติ วราเทพ นิโรธ อันนี้ดูน่าจะแข็งสุด เพราะตัวหัวมีความเก่ง แถมพื้นที่ส.ส.เขตก็แข็งปั๋ง ใครก็เจาะลำบากโดยเฉพาะเพชรบูรณ์ของสันติ กำแพงเพชรของวราเทพ หรือแม้แต่นครสวรรค์ แถมมีวิโรธเป็นตัวช่วย อีสานมีวิรัชกับพล.อ.ธัญญาเป็นคนดูแล วิรัชคุมอีสานใต้มีฐานที่มั่นอยู่โคราชรอบนี้ต้องสู้กับภท.กับพท.ก็หนักหน่อย โชคดีมีบิ๊กอี๊ดอดีตมทภ.๒ มาช่วย แต่อีสาน ๒๐ จังหวัด มี ๑๓๒ เก้าอี้ให้ช่วงชิง รอบนี้พปชร.เรียกว่าอ้วกแตกในแดนอีสานเพราะสารพัดพรรคหวังมาเจาะไข่แดงที่นี้ทั้งนั้น
ไปที่ภาคกลางเที่ยวนี้ลุงป้อมมอบหมายให้ชัยวุฒิประสานกับบ้านใหญ่ “เทียนทอง” มีตรีนุชเป็นหัวหอก ชัยนาท สิงห์บุรีก็หนักเพราะคู่แข่งแข็งๆทั้งนั้น สระแก้วของตรีนุชที่เคยเป็นของตายล่าสุดก็ถุกภท.ของเสี่ยหนูงาบไปหลายเขตดึงไปหลายคน ภาคตะวันตกได้สนธิรัตน์มาคุมความจริงเสี่ยสนก็มีบารมีทางนี้อยู่แล้วที่ผ่านมาก็มีข่าวว่ามีเตาะๆส.ส.กาญจนบุรีไว้หลายคน ถึงเวลาจริงก็คงรู้ว่ามีน้ำยามีความสามารถแค่ไหน เพราะภาคตะวันตกแข่งกันหนักมากๆ ภท.ก็พยายามมาเจาะ รทสช.ก็รุกไล่ แต่ภาคที่ดูผิดฝาผิดตัวมากที่สุดก็คือภาคใต้ เพราะส่งสามมิตรลงไปดู แม้จะมีนิพิฏฐ์ลงไปประกอบแต่ก็รู้ๆอยู่ว่านิพิฏฐ์ไร้บารมีไม่มีคะแนน ไม่งั้นปชป.จะปล่อยออกมาเหรอ ส่งสุริยะกับสมศักดิ์ลงใต้ก็หวานหมูฝ่ายตรงข้าม ปชป.ลูบปาก รทสช.ยิ้มหวาน เพราะเอาคนไม่ชินพื้นที่ไม่รู้จักชาวบ้านแหลงใต้ไม่เป็น ลงไปก็บรรลัยลงสิครับ ขนาดก่อนหน้านี้ให้รับผิดชอบภาคกลางภาคอีสานก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด แถมล่าสุดทางอ.แหม่มนฤมลคนใกล้ชิดลุงป้อม ยังทำท้าวลงไปมั่วที่ภาคใต้ลงไปทัวร์นครศรีธรรมราชอีก อาศัยคนในเครื่องแบบอดีตลูกน้องและเครือข่ายตำรวจของ “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. น้องชายลุงป้อมมาดูแลทำเอาหัวคะแนนป่วนกันทั้งจังหวัด ทั้งที่ความจริงตัวเองรับผิดชอบเมืองหลวงกับสกลธี แต่ยังเอาเวลาไปป่วนภาคใต้ อ.แหม่มอยู่การเมืองมา ๔ ปี ก็ยังปรับตัวไม่ได้เสียที ไปไหนใครก็หนีหมด ขนาดลุงป้อมรักกันๆยังเอือม “แหม่มไปอยู่ที่ไหนก็มีปัญหาหมด” แบ่งภาคดูรายชื่อแกนนำรับผิดชอบพื้นที่อาจดูดี แต่ถึงเวลาจริงๆไม่รู้คะแนนจะออกมาพุ่งไหม จะได้ส.ส.กลับมาสักกี่คน ตามลุ้นการแบ่งภาคคุมกำลังสูตรหนักไปทาง “ประสานงา” มากกว่า “ประสานงาน” แถมดูหน้าตาแล้วหนักไปทาง “จับฉ่าย” มากกว่าจะเป็น “ต้มยำกุ้ง” เป้าหมายพปชร. ๑๕๐ คน จะถึงตามที่ลุงป้อมหวังไว้หรือปล่าวเนอะ
///////////////////