บึ้มระทึก! ภายใน โรงงานผลิตฉนวนระเบิดกองโรงงาน วัตถุระเบิดศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธกรมสรรพาวุธทหารบก

บึ้มระทึก! ภายใน โรงงานผลิตฉนวนระเบิดกองโรงงาน วัตถุระเบิดศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธกรมสรรพาวุธทหารบก

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเกิดเหตุระเบิดยังไม่ทราบสาเหตุภายในโรงงานผลิตฉนวนระเบิดกองโรงงาน วัตถุระเบิดศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมมีรถดับเพลิงจากหลายพื้นที่จำนวนหลายคันและรถดับเพลิงภายในกรมสรรพาวุธต่างวิ่งเข้าไปดับเพลิงภายในโดยห้ามให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือบุคคลภายนอกเข้าไปเนื่องจากเป็นเขตของทหาร   สอบถาม เจ้าหน้าที่หญิงที่อยู่ข้างใน  เปิดเผยด้วยความตกใจเบื้องต้นว่าขณะนั้นก่อนจะเที่ยงกำลังจะพักรับประทานอาหารและก็มีเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งจากนั้นก็มีกลุ่มควันตนเองจึงรีบสตาร์ทรถขับออกมาด้วยความตกใจและเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างในส่วนสาเหตุที่ระเบิดยังไม่ทราบแต่เสียงระเบิดนั้นเป็นดิน แต่ไม่ทราบเป็นดินอะไร

ด้านนายสาลี  ทรัพย์มาก  อายุ 42 ปี  ควาญช้าง ที่เห็นเหตุการณ์และถ่ายภาพไว้ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงดับ สนั่น 2– 3 ครั้ง แล้วเห็นควันสีขาวขึ้นเป็นรูปดอกเห็ดเหมือนในหนัง ตนกับช้างตกใจ และตื่นเล็กน้อย  แต่ไม่รู้อะไรระเบิด จึงถ่ายรูปไว้ เสียงดัง แต่ไม่สะเทือนมาก

นายมาโนช จันทร์เกตุ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพระนครศรีอยุธยา ผู้เข้าไปดูเหตุการณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ดินระเบิด แต่เป็นสารเคมี ที่อยู่ภายในโรงงาน แต่จะมีการปรับปรุงโรงงานใหม่ จึงนำสารเคมีดังกล่าว ยกมาวางไว้ข้างนอก เมื่อเจอความร้อนจากแสงแดดจึงเกิดระเบิดขึ้น ไม่มีใครบาดเจ็บ และสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

สอบถามนาย บุญใสอภิมหาคุณ   อายุ  56 ปี ชาวบ้านที่อยู่หลังกำแพงของกรมสรรพาวุธ ทหารบกที่สุด  เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขณะนั้นตนเองกำลังนั่งทำงานอยู่ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นจำนวน 3 ครั้ง แต่ตนเองก็ไม่ได้ตกใจ อะไรมากเพราะเข้าใจว่าเป็นการทดลอง วัตถุระเบิดภายในกรมสรรพาวุธเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นเขตของโรงงานผลิต ชนวนระเบิด สักพักก็ได้ยินเสียงรถหวอดังขึ้น  ตอนนี้ก็รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเรื่องของสารเคมีเนื่องจากขณะนี้เริ่มได้กลิ่นสารเคมี หวั่นว่าจะเกิดอันตราย

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงาน  จากเจ้าหน้า ปภ.พระนครศรีอยุธยา  ว่าสาเหตุที่เกิดการระเบิดนั้นเกิดจากชนวนประกอบวัตถุระเบิดที่ไม่ได้ใช้งานแล้วจากนั้นนำออกมาจากตัวอาคารใส่ไว้ในหลุมเพื่อรออนุมัติทำลายล้างแต่เกิดระเบิดดังขึ้นส่วนสาเหตุหน้าจะเกิดมาจากความร้อนส่วนข้อมูลที่ชัดเจนต้องรอสรุปอีกครั้ง

ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น. ทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบภายในพบว่าจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนหันตรา – บ้านเกาะ ประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อเข้าไปด้านในพบว่าจุดระเบิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 5 เมตร ซึ่งหลุมดังกล่าวเป็นหลุมไว้ใช้สำหรับทำลายสารเคมีที่ไม่ได้ใช้แล้ว ในการประกอบชนวนระเบิด เมื่อไปถึงยังคงมีกลุ่มควันลอยคลุ้งอยู่ภายในหลุม

พันเอก อิศเรศ ศิลางาม ผู้อำนวยการกองโรงงานวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหกรรมสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบกทหาร เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 11 โมง  ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงงานผลิตชนวนระเบิด ได้รับงบประมาณให้ปรับปรุงอาคารเก่า ที่ใช้เก็บสารเคมีในการประกอบชนวนระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการขนย้ายสารเคมีบางส่วนออกมาภายนอกอาคาร และต้องกำจัดสารเคมีที่ไม่ได้ใช้แล้วในการผลิตออกมาไว้กลางแจ้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดไนตริก กับกรดซัลฟิวริก ที่ใช้เป็นสารตั้งต้น ในการผลิตชนวนระเบิด เกิดทำปฏิกิริยากับอากาศ และ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เกิดการลุกไหม้จนเกิดการระเบิดเกิดขึ้น  ยืนยันว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว อาจจะไม่มีการระเบิดซ้ำ ชาวบ้านบริเวณโดยรอบพื้นที่ไม่ต้องอพยพ

ด้าน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ทันทีเมื่อได้รับการรายงานจาก ปภ ว่าเกิดเหตุระเบิดยังไม่ทราบสาเหตุภายในโรงงานผลิตชนวนระเบิดกองโรงงาน วัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือ พบว่า เพลิงได้สงบลงแล้ว  อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ เร่งดูแลพี่น้องประชาชนโดยรอบบริเวณดังกล่าว และให้เตรียมรถดับเพลิงพร้อมสนับสนุนทั้งประชาชนและกองโรงงานวัตถุระเบิด เพื่อป้องกันหากเกิดเหตุขึ้นอีก

สุรัตน์  ชัยกุลเทวินทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อรรถวิชช์-พงศ์พล-ฐิติภัสร์” พร้อมใจโพสต์ปกป้อง “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” หลังสื่อทำเนียบตั้งฉายา “พีระพัง” ลั่นพร้อมพังทุกรูปแบบการโกงกิน
"การรถไฟฯ" ออกแถลงการณ์ ยันเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ "ที่ดินเขากระโดง" เดินหน้าทวงคืนตามกม. ไม่ใช่ละเมิดสิทธิปชช.
‘อี้ แทนคุณ’ พาเหยื่อร้องปคม. ถูกหลอกข้ามแดนลวงเปิดบัญชีม้า หลังพบมีหมาย 450 คดี
คืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 รถไฟฟ้าบีทีเอส - สายสีทอง ขยายเวลาให้บริการถึงตี 2
“เพื่อไทย” จัดเต็ม ชาวเชียงใหม่เรือนหมื่นแห่ฟัง “ทักษิณ” สว.ก๊องมั่นใจ พ่อใหญ่แม้วช่วยหาเสียงชนะแน่
ชาวบ้านทรุดก้มกราบ “ทักษิณ” ขอปรึกษาปัญหาชีวิต การ์ดรีบยกตัวออก
เกมแล้ว! หนุ่มแต่งรถประดับไฟสี ธีมคริสต์มาส ขับเฉิดฉายทั่วถนน ปรับฉ่ำๆ 2 ข้อหา
แจ้ง 4 ข้อหาหนัก 'อส.เมากร่าง' ยิงสนั่นกลางร้านข้าวต้ม ดับ 2 ศพ เปิดวงจรปิดอีกมุม เห็นวินาทีก่อเหตุชัด
ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น