วันนี้ (10 ก.พ.66 ) ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานเปิดงานเกษตรอีสานใต้ ประจำปี 2566 ซึ่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันการศึกษา กระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “โคก หนอง นา : ศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 10 – 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ลานกิจกรรมคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
“รมว.เฉลิมชัย”เปิดงานเกษตรอีสานใต้ ผลักดันให้เกษตรกรเข้มแข็ง
ข่าวที่น่าสนใจ
ดร.เฉลิมชัย ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแสดงความรู้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านการเกษตร การแปรรูปสร้างมูลค่า และการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีด้วยสินค้าเกษตรปลอดภัย อีกทั้งเป็นการสร้างอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ start up ให้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งภายในงานกำหนดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตร การผลิตพืชและสัตว์เศรษฐกิจจากภาครัฐและเอกชน เครื่องจักรกลการเกษตร การให้ความรู้ด้านพืชเศรษฐกิจและพืชพลังงาน ให้แก่เกษตรกร การประกวดพืช สัตว์ การแปรรูปอาหาร การเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์ และสุขภาวะที่ดี อันมีรากฐานจากภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนการจำหน่ายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับจากกลุ่มเกษตรกรกลุ่มต่าง ๆ จำนวนมากที่มาร่วมออกร้านครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการ “สุดยอด นิทรรศการเกษตรมีชีวิต” ที่ใหญ่ที่สุดในอีสานใต้ โคก หนอง นา สัตว์เศรษฐกิจ สัตว์เลี้ยงสวยงาม ทุ่งทานตะวัน สวนดอกไม้หลากสี อุโมงค์พืชผัก ระบบเพาะปลูกพืชไฮโดรโปนิค การผลิตมะเขือเทศในโรงเรือน นวัตกรรม ผลงานวิจัย ผลงานทางวิชาการ ผลผลิตจากการเรียนการสอน การให้คำปรึกษาจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การแสดงสินค้าและการออกร้านจำหน่ายสินค้าของเกษตรกร บริษัทเอกชน เครื่องจักรกล อุปกรณ์ต่อพ่วง และเทคโนโลยีทางการเกษตร พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์เลี้ยง สินค้ากลุ่มชุมชนและเกษตรกร การเสวนาวิชาการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การอบรมเชิงปฏิบัติการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมนักเรียน นักศึกษา เยาวชน และศิลปินมากมาย ตลอดจนการประกวดร้องเพลง การประกวดวงดนตรี และการประกวดธิดาสวนยาง เป็นต้น
“การจัดงานวันเกษตรอีสานใต้ในครั้งนี้มีความสำคัญกับภาคเกษตรเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการบูรณาการร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ประชาชน และเกษตรกร ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของพี่น้องเกษตรกรแล้ว ยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปพัฒนาในเรื่องการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และรักษาคุณภาพสินค้าเกษตร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาคการเกษตรจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องใช้คนรุ่นใหม่ โดยกระทรวงเกษตรฯ มี Smart Farmer และ Young Smart Farmer ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีการทำการเกษตรของประเทศ โดยการใช้เทคโนโลยี การทำการตลาดด้วยตัวเอง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่จะเป็นการยกระดับ พัฒนาคุณภาพชีวิต และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร มั่นใจว่าถ้าเราช่วยกันสนับสนุนและผลักดันให้พี่น้องเกษตรกรมีความเข้มแข็ง ประเทศก็จะเข้มแข็ง และสามารถเป็นมหาอำนาจทางด้านอาหารได้” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-