เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 66 ณ ห้องสัมมนา B1 – 2 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดา สมาชิกชมรมช่างภาพการเมือง ครั้งที่ 13 โดยมี นายชัยยศ ศิริสวัสดิ์ ประธานชมรมช่างภาพการเมือง กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน ทั้งนี้ นายเมฆินทร์ เอิ่ยมสะอาด คณะทำงาน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดร.วิชัย ปิยวรรณวงศ์ ที่ปรึกษาประจำคณะ กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบ และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และ น.ส.อวิกา แจ้งเจนกิจ ผู้แทนนายเฉลิม อยู่วิทยา ร่วมมอบทุนฯ
โอกาสนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 13 ที่ชมรมช่างภาพการเมืองได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่ออนาคตของลูกหลานของเรา เพราะไม่มีอะไรจะมีประโยชน์เท่ากับการสร้างคน โดยการสร้างคนด้วยการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอด โลกในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา การสร้างคนไม่ได้สร้างเฉพาะในสถาบันการศึกษาเท่านั้น โลกดิจิทัลได้เข้ามาต่อเนื่องจากโลกยุคโลกาภิวัฒน์ทำให้การศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในตำรา ห้องเรียนหรือถ่ายทอดจากครู อาจารย์เท่านั้น แต่ตำราความรู้และวิสัยทัศน์ได้อยู่นอกห้องเรียนและอยู่ใกล้ตัวที่สุดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอื่น ๆ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เพียงแค่ทำให้การศึกษาเปิดกว้างแต่ทำให้ความฝันและจินตนาการของลูกหลานของเราได้กว้างตามโอกาสที่เปิดเข้ามาไม่ใช่เพียงในห้องเรียน ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตและเห็นตัวอย่างของความสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็น นาย Steve Jobs ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ของการนำเสนอ iPhone มาเปลี่ยนโลกในปี 2007 หลายคนบอกว่า นาย Steve Jobs ไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ในยุคสมัยก่อนเมื่อตนได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีคำถามย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ด้วยคำถามที่มหาวิทยาลัยและสังคมในยุคนั้นซึ่งยังไม่ได้อยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ได้ตั้งคำถามถึงความหมายในการที่เราต้องสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาว่าได้ปริญญาไปเพื่ออะไร วันนี้โลกได้หมุนเวียนกลับมาที่เดิม ก็ได้มีคำถามในใจของลูกหลานจำนานมากว่าเหตุใดต้องได้ปริญญา การหาคำตอบนั้นมาบรรจบลงที่ชีวิตของแต่ละคนเหมือนน้ำที่มีอยู่ในแก้ว ครึ่งแก้ว ไม่มีใครตอบให้กับพวกเราได้ว่าจะจบปริญญาหรือไม่จบปริญญาแต่อย่างน้อยที่สุดต้องไม่ใช่แก้วเปล่าอีกต่อไป การศึกษาในระบบที่ได้รับปริญญา ได้รับประกาศนียบัตรก็เป็นพื้นฐานที่สำคัญ แต่เราจะเติมแก้วของเราให้เต็มด้วยความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เฉพาะตัว เหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ได้ทำงานด้วยความยากลำบาก เราฝันคนเดียวไม่ได้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเกิดมาได้เพราะคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามา ดูแลเราในยามที่เราเจ็บป่วย ยามที่เราหิวโหย ยามเราต้องการผู้ที่จะพยุงเราทั้งร่างกายและจิตใจตลอดชีวิตจนถึงวันนี้