บอร์ดกพช. เผยค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. มีลุ้นปรับลดลง

บอร์ดกพช. เผยค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. มีลุ้นปรับลดลง

วันนี้ ( 13 ก.พ.66) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แถลง “ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)” โดย นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน / นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน /และนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ร่วมแถลงข่าว

นายกุลิศ ระบุว่า แนวโน้มการคำนวณค่าไฟฟ้างวด 2 หรือตั้งแต่เดือนพ.ค.- ส.ค.66 จะกลับมาเป็นอัตราเดียวทั้งภาคครัวเรือนและเอกชนเหมือนเดิม หลังจากที่งวดแรกของปี 2566 หรือเดือนม.ค.-เม.ย.66 กกพ.พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าเป็น 2 อัตรา คือ ภาคครัวเรือนคิดค่าไฟที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น อาทิ เอกชน คิดอัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ราคา Spot ลดต่ำลงมาเหลือ 15-16 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 40-50 เหรียญต่อล้านบีทียูเมื่อปลายปี 2565 ขณะที่ในช่วงการใช้ไฟฟ้า Peak จะอยู่ในช่วงมกราคม-เมษายน 2566 ทำให้สถานการณ์แผนรับมือพลังงานฉุกเฉินผ่อนคลายขึ้น แต่ก็ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่จะลดลงต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วย ตามที่เอกชนเสนอมาหรือไม่ ต้องพยากรณ์จากหลายปัจจัย ซึ่งขณะนี้ กระทรวงพลังงานกำลังทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. นำรายละเอียดมาพยากรณ์กันอยู่ทั้งราคาก๊าซและปริมาณนำเข้า จะชัดเจนว่าค่าไฟงวด 2 อยู่ระดับใดเดือนมีนาคมนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกุลิศ ระบุว่า ในปี 2565 ประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหาราคาวิกฤติพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น และแม้ว่าขณะนี้ราคาพลังงานจะปรับตัวลดลงใกล้เคียงราคาปกติ แต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ได้ยุติ ทำให้ในปีที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการโดยใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตา ทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูง และมีการจัดหาก๊าซในประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านให้ได้มากที่สุด พร้อมนำโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะโรงที่แปดและเครื่องที่ 4 และมีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ในการดำเนินการจะต้องเน้นในเรื่องของการกำหนดเป้าหมายที่เป็นตัวเลขในเรื่องของการประหยัดพลังงานแม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแต่การประหยัดพลังงานก็จะต้องเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกันในเรื่องของแผนปฏิบัติการการส่งเสริมอุตสาหกรรมระบบการกักเก็บพลังงานประเทศแบตเตอรี่ของประเทศไทยพ.ศ. 2566 ถึง 2575 ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการส่งเสริมเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับคณะกรรมการนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่จะมีการดำเนินการมาตรการในเรื่อง การใช้การส่งเสริมการผลิตและกฎหมายมาตรฐาน รวมถึงการวิจัยการพัฒนา การสร้างบุคลากรเพื่อรองรับแผนในอนาคต ทั้งระยะกลางและระยะสั้น การสร้างระบบการกักเก็บพลังงานที่ไม่ใช้แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เพื่อเป็นการส่งเสริมการแบคอัพให้กับพลังงานหมุนเวียนที่จะมีมากขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ได้มีการนำเสนอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีขึ้นเมื่อเดือนม.ค.ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินเช่นไรและมีข้อแนะนำอย่างไรในเรื่องการกำหนดกรอบการจัดทำเพดานการผลิตไฟฟ้าของเอกชนในระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศ/การกำหนดปริมาณไฟฟ้าสำรอง ที่เกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชน ซึ่งจะส่งผลกับอัตราค่าไฟที่จะเรียกเก็บกับประชาชน โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีข้อแนะนำในเรื่องนี้ กระทรวงพลังงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ได้เสนอในเรื่องของการดำเนินการตามข้อแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญทั้งการจัดทำแผนพีพีพีฉบับใหม่ ซึ่งจะเน้นการลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมการทำราคาที่เหมาะสม การสร้างความมั่นคงทางพลังงานไปพร้อมพร้อมกัน รวมทั้งการจัดหากำลังการผลิตใหม่ ให้มีการแข่งขันของภาคเอกชนในด้านการลงทุน ด้านพลังงานหมุนเวียน

นายกุลิศ ระบุอีกว่า ยังเดินหน้าเรื่องการย้ำ การบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติที่จะขอความร่วมมือจากบมจ.ปตท. ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ที่ได้ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย เพื่อให้การสนับสนุนดังกล่าวไปเสริมกับงบกลางของสำนักงบประมาณที่ได้มีการของบประมาณการช่วยเหลือในปี 2566 และให้กลุ่มเปราะบางได้ใช้ไฟฟ้าได้ใช้ไฟฟ้าโดยไม่มีผลกระทบในเดือนม.ค.-เม.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังมีในเรื่อง การทบทวนการเปิดเสรี ก๊าซธรรมชาติระยะที่สองด้วยเช่นกัน

ด้านนายวัฒนพงษ์ ระบุว่า การเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ จะต้องมีการทบทวนจากภารกิจเดิม โดยได้มีการกำหนดในเรื่องของการนำเข้ากิจการก๊าซธรรมชาติ โดยให้มีการเพิ่ม New Shipper (ผู้นำเข้ารายใหม่) เพิ่มเติม จากเดิมที่มีเพียง ปตท. เท่านั้น โดยปัจจุบัน ได้มี shipper ที่มีใบอนุญาต 8 ราย รวมถึงได้มีการรายงานปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมถึงทบทวนการนำพลังงานไฟฟ้าเข้าระบบ การปรับปรุงข้อเสนอของก๊าซธรรมชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จิราพร" ชวนคนไทยศึกษาโครงการหลวง สานต่อพระราชปณิธาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
“กัน จอมพลัง” รุดช่วยเด็ก 2 เดือน ถูกแม่เสพยาบ้า ทำร้าย
สพฐ. จับมือผู้บริหารเขตพื้นที่ชายแดนใต้ ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ร่วมใจสร้างคุณภาพทุกห้องเรียน
"สรวงศ์" ลุยแก้ปัญหา "เกาะกูด" ดึงนทท.ต่างชาติ ระดับไฮเอนด์ กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่
ส่องเงินรางวัล "โอปอล สุชาตา" หลังคว้ารองอันดับ 3 เวที Miss Universe 2024
เปิดจำนวนเงินรางวัล "Miss Universe 2024" หลังสาวงามเดนมาร์ก คว้ามงกุฎไปครอง
“บิ๊กโจ๊ก-เสรีพิศุทธ์” ให้การป.ป.ช. ลือสนั่น คดีช้้น 14 มีมูล จ่อเอาผิดกราวรูด
"กิตติรัตน์" เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์ทุกเสียงค้านคือเครื่องเตือนใจ ให้ปฏิบัติดี
“รับน้องขึ้นดอย” นศ.โชว์สปิริตฝ่า “โค้งขุนกัณฑ์” พร้อมเพรียงสุดขนลุก!
เล่นผิดคนแล้ว “กัน จอมพลัง” ดับซ่าส์ “โล้นปีนเสา” แจ้งความจับคาผ้าเหลือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น