ฟันโทษ 4 ตำรวจนำขบวน “ผิดวินัยร้ายแรง” เซ่นรับงานนำขบวน นทท.จีน

ฟันโทษ 4 ตำรวจนำขบวน "ผิดวินัยร้ายแรง" เซ่นรับงานนำขบวนนทท.จีน

คณะกรรมการจเรตำรวจ แจ้งข้อหาตำรวจ 4 นาย ขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีนแบบวีไอพี ผิดวินัยร้ายแรง โทษหนักถึงไล่ออก-ปลดออกจากราชการ ทั้ง 4 นายยังให้การภาคเสธ ยอมรับว่าปรากฏอยู่ในคลิป แต่ไม่ได้ทำการใดเป็นการเสียหายต่อราชการ หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด

 

 

13 ก.พ. 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจ ถนนรามอินทรา คณะกรรมการจเรตํารวจ เรียกตัว 4 ตำรวจ ที่ปรากฎในคลิปนักท่องเที่ยวจีนได้รับบริการขับรถนำขบวนจากสนามบินไปถึงโรงแรมที่พักโดยผู้โพสต์ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ระบุว่า นายตำรวจชุดดังกล่าวได้รับเงินค่าจ้างในการขับรถนำขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ตนเองและครอบครัว มารับทราบข้อกล่าว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางเข้าตรวจสอบรถเก๋ง โตโยต้า รุ่น อัลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน 3 ขภ 258 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เทรเชอร์ สีขาว ทะเบียน 1 ขภ 85 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอฟเซด1 สีขาว ทะเบียนตราโล่ 55094

โดยพล.ต.ต. เจนกมล คำนวล ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 กล่าวว่า วันนี้เป็นการเรียกผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาสอบปากคำ โดยคณะกรรมการสอบได้แจ้งข้อกล่าวหาวินัยร้ายแรงตำรวจทั้ง 4 นาย จากนี้ ถ้าสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า ผิดจริงมีโทษสองสถานคือ ไล่ออกจากราชการหรือปลดออกจากราชการ

ข่าวที่น่าสนใจ

เบื้องต้นจากการสอบสวนตำรวจทั้ง 4 นาย ยังให้การภาคเสธ คือยอมรับว่าปรากฏอยู่ในคลิป แต่ไม่ได้ทำการใดเป็นการเสียหายต่อราชการหรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ซึ่งคณะกรรมการอยู่ในขั้นตอนการประสานนักท่องเที่ยวชาวจีน เจ้าของคลิปมาให้ปากคำ ผ่านระบบออนไลน์ไม่จำเป็นต้องเชิญตัวมา ขณะที่บริษัททัวร์ ซึ่งระบุว่า มีการจัดแพคเกจ ตำรวจนำขบวน อยู่ระหว่างการเรียกสอบเช่นกัน

 

 

พล.ต.ต.เจนกมล กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันแรก ที่มีการตรวจพิสูจน์รถที่ปรากฏอยู่ในคลิป หลังจากนี้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ น่าจะทราบผลตรวจ วันนี้รถทั้งหมดที่ปรากฏในคลิป ไม่มีติดสติกเกอร์โล่ตำรวจแล้ว เพราะเจ้าของรถมีการลอกสติกเกอร์ดังกล่าวออกไป ในส่วนนี้ทาง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ได้ดำเนินคดีอาญาไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การติดตามเรื่องดังกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ล่าช้า เพราะตั้งแต่เกิดเหตุมีการสอบสวนมาโดยตลอด จนถึงการตั้งคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนยังคงไม่มีการขยายผลไปถึงนายตำรวจรายอื่น แต่หลังจากนี้หากมีการพาดพิงถึง สำนักงานจเรตำรวจ จะต้องมีการเรียกตัวทุกนาย ที่มีการเอ่ยชื่อถึง เข้ามาให้ปากคำโดยกรอบเวลาของการดำเนินการเรื่องนี้เหลืออีก 165 วัน แต่ทางคณะกรรมการคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 60 วัน อย่างไรก็ตามสำหรับสถานะนายตำรวจทั้ง 4 นาย ขณะนี้ถูกต้นสังกัดสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฎิบัติการ (ศปก.)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น