วันที่ 13 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปชมการผลิตและจำหน่ายกุหลาบวาเลนไทน์ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย พบว่าลูกค้าคนกลางมาสั่งมาจองมาบรรทุกจำนวนมากในช่วงก่อนวันแห่งความรัก เพื่อไปขายต่อยัง-มิภาคต่าง ๆ นับว่ามีความคึกคักมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา เนื่องจาก อ.ภูเรือ เป็นที่รู้จักว่าเป็น”แหล่งผลิตไม้ดอก”อันดับต้นๆของประเทศไทย
นายวีระพงษ์ คำภาจูง เกษตรกรชาวสวนบ้านโนนแสงแก้ว เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวรวม 4 คน ทำการปลูก เพาะ ขาย กุหลาบสายพันธุ์ต่างๆที่ริมถนนเลย-ด่านซ้าย บริเวณบ้านโนนแสงแก้ว ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย มาแล้วกว่า 10 ปี ในเนื้อที่ 4 ไร่ ทั้งติดตา ชำตอ กรอกถุงและขาย ทั้ง 3 ช่วงของแต่ละปี โดยใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ ผสมดินและแกลบ เป็นหลัก มีเกือบทุกายพันธุ์หลากสี ขายในราคา 18 บาท/ต้น ส่วนลูกค้ามีทั่วไปในประเทศตลอดจนตลาดทีมาเลเซีย ด้วย ด้านการเพิ่มการขยาย นั้น ปี 2565 มาถึงวันนี้เพิ่มขาก 80,000 ต้นขึ้นมาเป็น 130,000 ต้น และสามารถขายได้หมดทุกต้น เรียกว่าผลิตไม้ทันตลาดไม่เพียงพอ
นายวีระพงษ์ฯ กล่าวอีกว่า การบริการนั้น มีทั้งลูกค้าเดินทางมารับด้วยตนเอง และ เราจัดบรรทุกรถยนต์ไปส่งให้ เกี่ยวกับยอดขายบางวันก็ 400-500 ต้น/วัน ส่วนเทศกาลจะมียอดขายเฉลี่ยที่ 3,000 -4,000 ต้น/วัน โดยเฉพาะก่อนวันแห่งความรักหรือวันเวนไทน์ลูกค้าสั่งออร์เดอร์เข้ามาจำวนมากสูงกว่าในช่วงโรคโควิด 3 ปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 40 อีก เนื่องจากอากาศหนาวเย็นยาวนานเป็นผลดีต่อกุหลาบ โรคแมลงมารบกวนน้อย อีกทั้งปีนี้จำนวนรายของเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบลดลง เนื่องมาจากการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งสภาพน้ำระบบน้ำไม่เพียงพอ.
ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย