วันที่ 15 ก.พ. 2566 จากกรณี คุณแม่ของนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุค กรณีลูกชายตกตึกชั้น 4 ในโรงเรียน อาการสาหัส ซึ่งเพื่อนบอกก่อนลูกชายจะตกตึก มีเด็ก 3 คนรุมทำร้าย จากนั้นก็เดินร้องไห้ ซึ่งมีครูในโรงเรียนรู้เรื่องแต่เรื่องกลับเงียบ จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โพสต์คุณแม่โพสต์ว่า เมื่อวาน ( 14 ก.พ.) มีเพื่อนบอกว่า ก่อนน้องกานต์จะตกตึกชั้น 4 ที่โรงเรียน เห็นว่ามีเด็ก 3 คนรุมทำร้าย จากนั้นน้องก็เดินร้องไห้ มีครูในโรงเรียนรู้เรื่อง แต่เรื่องกลับเงียบ พร้อมโพสต์เบอร์โทร.ให้ครูคนดังกล่าวโทร.ไปอธิบาย คุณแม่แฮชแท็กด้วยว่า โรงเรียนบอกเพื่อนนักเรียนปิดข่าว ทางผู้สื่อข่าวเดินทางไปหานาง จิดาภา กำเนิดทอง แม่ของน้องกานต์ เด็กชายวัย 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ที่นั่งเฝ้าอาการของลูกชายอยู่ที่หน้าห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยเธอได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานในขณะที่กำลังขายของอยู่ที่ร้าน ก็มีครูโทรมาบอกว่าน้องเกิดอุบัติเหตุ ตกจากอาคารเรียน ให้รีบตามไปที่โรงพยาบาล ในระหว่างนั้นเธอก็พยายามถามครู ว่าน้องมีสติไหม แต่ครูก็บอกแค่ว่าขอให้น้องปลอดภัย จนเธอเดินทางมาถึงโรงพยาบาล แต่ลูกก็เข้าไปในห้องไอซียู ให้คุณหมอช่วย จนกระทั่งเย็นจึงรู้ความจริงว่า น้องตกจากตึกชั้นสี่ และทราบว่า ซี่โครงหัก ปอดทะลุ กรามหัก ฟันหัก ตอนนี้ไม่รู้สึกตัว หมอใส่เครื่องช่วยหายใจและดามคอเอาไว้
เมื่อวานหลังเกิดเหตุ ครูก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลกันหลายคน เธอได้ขอทราบเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ก่อนที่น้องจะกระโดดลงมานั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง และวันนี้ครูโทรมาบอกว่า ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นก่อนที่น้องจะตกตึกลงมาเธอก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าไม่มีสาเหตุอะไร ลูกเธอจะกระโดดตึกลงมาทำไม
ส่วนตัวเธอนั้นเชื่อว่า น้องถูกแกล้ง เพราะที่ผ่านมา เขามักจะถูกเพื่อนแกล้งอยู่เป็นประจำ และเธอก็เคยบอกเรื่องที่ลูกถูกแกล้งไปยังครูประจำชั้นแล้ว ครูก็รับทราบ และล่าสุดน้องก็ถูกเพื่อนแกล้ง ทางครูปกครองก็ได้ทำทัณฑ์บนเพื่อนที่แกล้งน้องมาแล้วด้วย เคยถามลูกว่า ไหวไหม ลูกก็บอกว่าไหว เพราะใกล้จะจบ ม.3 แล้ว จะได้เปลี่ยนโรงเรียน และไม่อยากเรียนที่โรงเรียนนี้ เพราะถูกเพื่อนแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นการรุมทำร้าย เอาน้ำสาด เตะขา แต่น้องไม่สู้เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ และน้องเป็นนักกีฬา จะสู้เฉพาะในสนาม
เมื่อวานนี้ก่อนที่น้องจะกระโดดมีเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า ลูกชายเธอเดินร้องไห้ แล้วเอาเสื้อมาคลุมหัว แล้วอยู่ๆ ก็วิ่งขึ้นไปกระโดดลงมาเลย น้องคงจะสุดทนแล้วไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร เธอก็ช่วยน้องไม่ได้ ถ้าตัดสินใจย้ายโรงเรียนไปก่อนหน้านี้ก็คงจะดี เรื่องนี้เธอสงสัยว่าใครทำให้ลูกต้องเจ็บช้ำขนาดนั้น แต่ไม่ได้คิดว่ามีเพื่อนคนไหนจับลูกโยนลงมา แค่อยากรู้ว่า ใครที่ทำลูกเธอทุกวันๆ จนเจ็บช้ำขนาดนี้ จนทนไม่ไหว ถ้าไปโดนกับลูกของคนอื่นอีก ส่วนทางโรงเรียนหลังเกิดเหตุ ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า แต่ไปสั่งนักเรียนว่าให้ปิดข่าว ผู้ปกครองก็แชทมาบอกว่า ทางโรงเรียนบอกให้ปิดข่าว เด็กนักเรียนหลายคนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
จรัส ชูศรี/ จ.สงขลา
