“รมว.คลัง” มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง การคลังยังแข็งแกร่ง เร่งกระตุ้นลงทุน ลุยโครงการอีอีซี

"รมว.คลัง" มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง การคลังยังแข็งแกร่ง เร่งกระตุ้นลงทุน ลุยโครงการอีอีซี

รมว.คลังมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง จากภาคท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐและเอกชน และโครงการอีอีซี มองฐานะการคลังไทยยังแข็งแกร่ง มีช่องว่างกู้เงินเพิ่มเติมได้ถึง 10% ของจีดีพี

 

 

 

15 ก.พ.66 สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจจัดงานสัมมนาThailand Future Economic Forum 2023 พร้อมปาฐกถาพิเศษ “ฝ่าคลื่นเศรษฐกิจปี 2566” โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และล่าสุดได้รับรางวัลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งปี 2566 ของภูมิภาคเอเชียแปรซิฟิก พร้อมมอบรางวัล CEO Econmass Awords 2022 ให้กับผู้นำองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัล

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยนายอาคม มองเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป จากแรงขับเคลื่อนของภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน แต่ทั้งนี้ ยังต้องติดตาม ในเรื่องความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยได้

สำหรับภาคการท่องเที่ยวนั้น ไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะ นักท่องเที่ยวทุกคนมีความหมายและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขณะที่ปัจจุบันมาตรการของรัฐ คือ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ยังมีอยู่ เพื่อใช้ ในการขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวของไทย ขณะที่มาตรการด้านการบริโภคภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย จึงได้ออกมาตรการช้อปดีมีคืน ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท โดยกระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาให้มีความสมดุลไม่ใช้จ่ายมากเกินไป

 

 

 

นายอาคม กล่าวอีกว่า จากภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังมี แต่ด้านฐานะทางการคลังยังแข็งแกร่ง ปัจจุบันจากการขยายเพดานเงินกู้ ส่งผลให้ไทยยังมีพื้นที่ทางการคลัง และมีช่องว่างที่จะกู้เงินเพิ่มเติมได้ถึง 10% ของจีดีพี ในกรณีที่เกิดวิกฤติและต้องหาเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดการเสียวินัยทางการคลังด้วย ประกอบกับปัจจุบันหนี้ต่างประเทศของไทยมีสัดส่วนน้อยกว่าเงินกู้ในประเทศ ส่งผลให้ฐานะการเงินการคลังของไทยยังอยู่ในระดับที่ดี

สำหรับการใช้จ่ายของภาครัฐบาลในปีนี้ยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านของการลงทุน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตในอนาคต ส่วนในเรื่องงบประมาณในปี 66 รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณขาดดุล 695,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ประมาณ 700,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 67 ตั้งงบประมาณขาดดุล 593,000 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 66 ที่ 102,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ

ทั้งนี้ การตั้งงบประมาณต้องวางแผนให้มีเหตุมีผล เมื่อไหร่ที่ขาดดุลนานจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่กระทรวงการคลังยืนยันตลอด คือ นโยบายการคลังที่ยั่งยืน ไม่เฉพาะไทยเท่านั้น แต่ประเทศอื่นก็ทำลักษณะเดียวกัน เมื่อโควิด-19 หมด ต้องทำนโยบายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ด้านการดำเนินนโยบายนั้น ยืนยันว่า นโยบายการเงิน และการคลังต้องสอดประสานและทำงานร่วมกัน โดยการดูแลในเรื่องเป้าหมายเงินเฟ้อ การใช้นโยบายการเงินการคลัง เพื่อดูแลเงินเฟ้อนั้นเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการทำนโยบายการเงินนั้น ต้องดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยไม่สร้างต้นทุนให้ธุรกิจมากเกินไป และไม่สร้างต้นทุนให้ครัวเรือน ซึ่งเป็นหนี้สินอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ถามว่า เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ยอมรับว่า ไทยมีผลอยู่บ้าง สะท้อนจากภาคการส่งออกที่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวลง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน การค้าชายแดน รวมถึงการหาตลาดใหม่ๆ มาชดเชยการส่งออกในบางส่วนที่หายไป

อย่างไรก็ตามในปีนี้สิ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยไปต่อได้ คือ การลงทุน ปีนี้เรื่องการลงทุนของภาคเอกชน การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานควรเร่งตัวขึ้น เพราะปีที่ผ่านมาอัตราการลงทุนของไทยค่อนข้างช้า จากข้อจำกัดจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กำลังแรงงานมีปัญหา การติดโควิด-19 ในไซต์งาน ดังนั้น ในปีนี้ แรงขับเคลื่อน คือ การลงทุน โครงการอีอีซีจะมีนัยสำคัญของการสร้างการเติบโตในปีต่อ ๆ ไป

 

ทั้งนี้มองว่าสิ่งที่จะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของไทยในอนาคตมีด้วยกัน 2 เรื่อง คือ เรื่อง Digital และ Green โดยการที่จะทำให้ประเทศของไปสู่ความทันสมัย การใช้เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต แอปพลิเคชั่น ต่าง ๆ ล้วนเป็นดิจิทัลอินฟราสตรัคเจอร์ ที่ทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ แต่ต้องไม่ลืมด้านลบ ที่จะเปิดช่องให้มิจฉาชีพเข้ามาแฮกข้อมูล การหลอกลวงมีทุกช่องทาง ดังนั้นการเกิดระบบรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น