วันที่6 ส.ค. 2564 เพจเฟซบุ๊ก “Thailand FACT Today” ได้เผยแพร่ข้อความระบุว่า
ไฟเซอร์ถึงหมอแล้ว
หมอ นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าทีมฟื้นชีวิตผู้ว่าปู และเป็นทีมแพทย์ ซึ่งลงพื้นที่หน้างานอย่างเข้มข้น ได้ไฟเซอร์แล้วนะครับ เป็นเข็ม Booster
คุณหมอเล่าว่า หลังฉีด ผ่านไป 6 ชั่วโมง ยังสบายดี
ส่วนเรื่องจำนวนยาฟาวิฯ คุณหมอ แจ้งว่า ได้รับการเปิดเผยในรายละเอียดแล้ว คิดว่าพอ หากผู้ป่วย ยังขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ต่อมา รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นิธิพัฒน์ เจียรกุล” ระบุว่า
อาการของคุณลุงเจ้าของวันเกิดวัยครบ 65 ปีที่เล่าถึงไปเมื่อวาน ยังคงไม่ค่อยแข็งแรงดีพอนักหลังย้ายออกจากไอซียูโควิด ทำให้ต้องการการประคบประหงมในระบบการหายใจเป็นพิเศษ หวังว่ากำลังใจจากคนรอบข้างจะหนุนช่วยให้ท่านมีแรงฮึดผ่านจุดยากลำบากอีกจุดหนึ่งนี้ไปได้ ผิดกับคุณแม่ที่เกิดปอดอักเสบโควิดซึ่งต้องผ่าท้องคลอดรายที่สอง อาการดูกระเตื้องขึ้นบ้างหลังได้ยาสูตรผสมตั้งแต่เมื่อวาน แนวโน้มที่จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจวันนี้จึงลดลงไป ในวันนี้เองทีมของเราก็ได้หยุดใช้เครื่องช่วยหายใจให้กับผู้ป่วยได้อีกสองราย แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอันตรายอยู่ในไอซียูต่อไปก่อนจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัย
หลังจากเป็นที่เฝ้ารอมานานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด่านหน้าอื่นที่ทำงานกับผู้ป่วยและผู้มีความเสี่ยงสำหรับโรคโควิด-19 วัคซีนของไฟเซอร์ได้ถูกเริ่มกระจายออกไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวาน สำหรับเตรียมการเริ่มฉีดให้กับบุคคลในเป้าหมายในสัปดาห์หน้า แล้วขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายต่อๆ ไปให้เร็วที่สุด เมื่อวานบ่ายแก่ๆ แล้วทางรพ.ศิริราชก็ได้รับวัคซีนล็อตแรกพร้อมกับในอีกหลายที่ ทีมงานบริหารวัคซีนได้วางแผนเตรียมการกันอย่างเข้มแข็งและไม่รอช้า แต่เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีความยุ่งยากในการเก็บรักษา รวมถึงความซับซ้อนในการเตรียมวัคซีนให้พร้อมฉีด วันนี้จึงได้เริ่มมีการทดสอบระบบต่างๆ ตั้งแต่การจัดเตรียมไปจนถึงกระบวนการฉีดให้ได้เร็วที่สุด โดยมีบุคลากรที่ปฏิบัติงานในทีมโควิดวิกฤตทั้งสามทีมจำนวน 12 คนสมัครใจเข้าร่วมเป็นกลุ่มแรก ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของรุ่นบุกเบิก ขอชมว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น ส่วนตัวแล้วเนื่องจากวัคซีนเข็มที่สามนี้มีปริมาณเพียง 0.3 ซีซี ซึ่งน้อยกว่าวัคซีนของซิโนแวคคือ 0.5 ซีซีที่ฉีดไปแล้วสองเข็ม ทำให้ความรู้สึกปวดตึงบริเวณต้นแขนน้อยกว่าครั้งก่อนๆ ส่วนผลข้างเคียงอื่นผ่านมากว่า 6 ชั่วโมงก็ยังไม่ปรากฏ เมื่อฉีดเสร็จหมาดๆ และย่างเท้าถึงไอซียูโควิดที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ คงจะด้วยแรงอิจฉาของแพทย์และพยาบาลในทีมที่สมัครไปไม่ทันวันนี้ พวกเขาจึงรีบเสนอเตียงไอซียูให้แลกใช้ได้ในคืนนี้ หากเกิดอาการแพ้รุนแรงขึ้นแบบไม่คาดฝัน (แบบที่เหล่าคนเสนอก็คงอยากให้เกิดด้วย) ก็ได้แต่ส่ายหน้าขอยังไม่รับความหวังดีของพวกหน้าเนื้อใจเสือ พอเลิกงานแล้วกลับไปเอาของที่ที่ทำงานประจำ พบแพทย์เพื่อนร่วมงานรายแรก พอเห็นรูปถ่ายขณะโดนปักเข็มที่ต้นแขนซ้าย ก็ค่อนขอดว่าคนโดนฉีดคงกลัวว่ายาจะไม่ถูกฉีดเข้ากล้ามเนื้อแน่ๆ จึงพยายามเกร็งกล้ามเนื้อหัวไหล่ให้คนฉีดเห็นชัดพร้อมกดดันให้เขาใจสั่นไปด้วยในตัว ส่วนแพทย์เพื่อนร่วมงานอีกคนก็แสดงความหวังดีว่า เมื่อฉีดเสร็จแล้วควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจไว้ด้วย คงเพราะเห็นว่าอายุ (เหลือ) น้อยอาจมีผลแทรกซ้อนต่อหัวใจเหมือนที่มีรายงานในกลุ่มวัยรุ่นจากการฉีดในต่างประเทศ แหมคนได้ฉีดทีหลังช่างหวังดีต่อกันเสียเหลือเกิน หวังว่าการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้กลุ่มเป้าหมายทั้งประเทศในสัปดาห์หน้าจนถึงสิ้นเดือนนี้ จะเป็นไปอย่างเพียงพอและโดยราบรื่น เพื่อเป็นเกราะเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานยืนท้าทายคลื่นลมที่โหมหนักได้ยาวนานต่อไป
ช่วงค่ำได้รับเชิญไปร่วมการสนทนาว่าด้วยเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์มีพอไหม ส่วนตัวแล้วซึ่งรับทราบมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการสำรองและจัดหายามาไว้เพียงพอกับปริมาณผู้ป่วยใหม่รายวันที่ยังเพิ่มขึ้นช้าๆ นี้ต่อไปได้อีกหลายเดือน แต่ถ้ามีการเพิ่มอย่างก้าวกระโดดแบบหยุดไม่อยู่ แพทย์และพยาบาลที่หลงเหลือทำงานกันอยู่ คงล้มหายไปเสียก่อนที่จะได้เห็นว่ามียาไม่พอใช้ในประเทศ อุปสรรคใหญ่ขณะนี้โดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑล คือยังมีผู้ป่วยตกค้างในชุมชนอีกจำนวนไม่รู้เท่าไร ที่ยังเข้าไม่ถึงการตรวจหาเชื้อ และที่ตรวจพบเชื้อแล้วแต่ยังเข้าไม่ถึงการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์เมื่อมีข้อบ่งชี้ ซึ่งแนวทางการรักษาล่าสุดได้ปรับข้อบ่งชี้การได้รับยาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีคอขวดที่การนำผลการตรวจเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา และเริ่มมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์พร้อมนำส่งยาให้กับผู้ป่วยในชุมชนให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของภาครัฐและภาคประชาชนจะต้องเร่งบูรณาการการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนที่ระบบสาธารณสุขในภาพรวมจะซวนเซและทรุดล้มไปอย่างกู่ไม่กลับ