“กรณ์” ควง 2 ผู้สมัคร ชาติพัฒนากล้า-ภูเก็ต “เทมส์ – อรทัย” เจาะพื้นที่เข้มข้นหลังผลโพลล์พื้นที่มาแรง

"กรณ์" ควง 2 ผู้สมัคร ชาติพัฒนากล้า-ภูเก็ต "เทมส์ - อรทัย" เจาะพื้นที่เข้มข้นหลังผลโพลล์พื้นที่มาแรง

วันที่ 16 ก.พ. 66 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ และ นายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จ.ภูเก็ต เดินพบปะพี่น้องประชาชนในทั้ง 2 เขต เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าในการพัฒนา จ.ภูเก็ต ให้เป็น World class destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ตนมั่นใจในตัวผู้สมัครทั้งสองคน ว่าเป็นคนที่มีคุณภาพและเป็นความหวังของชาวบ้าน ที่เข้ามาแก้ปัญหาให้กับ จ.ภูเก็ต ดูจากผลโพลล์ของท้องถิ่นเอง เราก็มาเป็นที่ 1 แม้ว่าจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ และพรรคใหม่ก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าเน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง โดยเฉพาะใน 2-3 ปี ที่ผ่านมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 คนภูเก็ตเดือดร้อนหนักหนาสาหัสมาก

 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในช่วงโควิด ตนลงมาภูเก็ตบ่อยมาก สัมผัสได้ถึงความทุกข์ยาก เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว รายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นในสภาพแวดล้อมที่การท่องเที่ยวถูกปิดล็อคเป็นศูนย์ แน่นอนที่สุดคนที่เดือดร้อนคือ คนภูเก็ต ดังนั้นเราถึงมองว่านโยบายที่จะมาช่วยแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนในเรื่องของการทำมาหากินเรื่องปัญหาหนี้สิน ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เวลานี้การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ในแง่ของความสนใจของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวภูเก็ตยังไงมีอยู่แล้ว แต่ทำอย่างไรจะให้คุณภาพชีวิตของคนภูเก็ตเองดีขึ้น และได้ประโยชน์จากรายได้ที่ชาวภูเก็ตช่วยกันสร้างให้กับประเทศ

นอกจากนี้ การจัดสรรงบประมาณ ไม่ได้สะท้อนความสำคัญของภูเก็ตในฐานะแหล่งรายได้สำคัญของประเทศและไม่ได้สะท้อนความต้องการของคนภูเก็ต ๆ ที่มีประชากรจริงอยู่ 5 แสน แต่ประชากรแฝง ทั้งแรงงานจากนอกเขตพื้นที่ หรือ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่มาใช้ทรัพยากรอยู่ที่ จ.ภูเก็ต เป็นหลักสิบล้านคน เพราะฉะนั้น การจัดสรรงบประมาณก็ต้องสะท้อนความเป็นจริงด้วย ที่ผ่านมาผมมองว่า นักการเมืองจากภูเก็ตไม่เคยต่อสู้เรื่องนี้อย่างจริงจัง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เราเน้นเรื่องมุมทางเศรษฐกิจในการนำเสนอนโยบายให้กับชาวภูเก็ต” นายกรณ์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า การบริหารจัดการตัวงบประมาณ คนที่รู้มากที่สุดว่าคนในพื้นที่ต้องการอะไร และมีความเดือดร้อนเรื่องอะไร คือ ท้องถิ่น โดยส่วนตัวตนเดินทางไปมาทั่วประเทศ พบว่ามาตรฐานคุณภาพของผู้บริหารท้องถิ่นสูงขึ้นเรื่อย ๆ และโดยเฉพาะมาตรฐานของผู้บริหารท้องถิ่นของภูเก็ต ถือว่าสูงมาก ในช่วงโควิดเราจะเห็นว่า แนวความคิดในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้าถึงวัคซีน ข้อเสนอเรื่องของแซนด์บ็อกซ์ มันเป็นแนวความคิดของคนภูเก็ตเสนอขึ้นไปให้ส่วนกลางได้พิจารณาทั้งสิ้น สุดท้ายเรื่องดี ๆ ที่มีให้กับภูเก็ต ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นจากการผลักดันของคนภูเก็ตเอง แต่หลายเรื่องกลับใช้เวลานานมาก และไม่ได้ตอบสนองเต็มรูปแบบอย่างที่ควรจะเป็น มันยิ่งทำให้มีภาพที่ชัดเจนว่า หนึ่งในพื้นที่ที่มีความพร้อมที่จะบริหารตนเอง บริหารงบประมาณของตนเอง ก็คือ ภูเก็ต เรื่องนี้ ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในกรุงเทพมหานคร มันถึงเวลาของภูเก็ตเช่นเดียวกัน

 

นายเทมส์ กล่าวว่า รายได้หลักของ จ.ภูเก็ต มาจากการท่องเที่ยว โจทย์ของเราคือ เราจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มรายได้ได้อย่างเต็มที่ โดยที่ยังสามารถบำรุงรักษาเกาะของเราไว้เพื่อขายในวันต่อ ๆ ไปข้างหน้าได้ด้วย ขณะเดียวกัน โจทย์อีกอย่างที่รัฐบาลในยุคต่อ ๆ ไปต้องทำคือ การท่องเที่ยวต้องเฟื่องฟูมาก ๆ เราจะผลักดันให้ภูเก็ต World class destination หรือ เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ฉะนั้นวิถีชีวิตของคนภูเก็ต ก็ต้องเหมือนอยู่ในเมืองระดับโลกจริง ๆ ถนนหนทางต้องสะดวก รถต้องไม่ติด น้ำต้องมีในทุกฤดู ฉะนั้นพรรคชาติพัฒนากล้า เชื่อว่าการท่องเที่ยวยังต้องเป็นแหล่งการหารายได้ของภูเก็ตอย่างแน่นอน ประเทศไทยยังสามารถรับนักท่องเที่ยวได้อีกเยอะ เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวได้อีกมาก สามารถเพิ่มวันท่องเที่ยวจาก 10 วัน เป็น 12 วัน เพิ่มการใช้จ่ายจากวันละ 5,000 บาท เป็น 7,000 บาท และสามารถเพิ่มเมืองท่องเที่ยวขึ้นทั่วประเทศ โดยใช้นโยบายเศรษฐกิจสายมู ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด นอกจากนี้ในเรื่องของ LGBTQ ประเทศไทยโดยธรรมชาติของคนที่เปิดกว้างและยอมรับและเป็นมิตรไมตรี คนพวกนี้จึงชอบมาเมืองไทย รัฐบาลไทยต้องแสดงออกด้วยการออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมไปถึง การดูแลอำนวยความสะดวก เรื่องความปลอดภัย ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัดด้วย รายได้ต้องกระจาย แหล่งสาธารณูปโภคต้องพร้อมรองรับความเจริญที่จะเกิดขึ้นตามมา

 

ด้านนางสาวอรทัย กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคือ Life style travel หรือการท่องเที่ยวตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ถลาง เป็นเมืองที่มีเกษตรกรรมเยอะ มีวิถีวัฒนธรรมที่หลากหลาย หากผลักดันให้เกิดวิถีชุมชนยั่งยืนอยู่คู่กับนักท่องเที่ยว แทนที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาอยู่ในโรงแรมหรู นอนชายหาด ก็ควรมีโปรแกรม ออกมาเที่ยวบ้านเรา ไปจับปู นั่งเล ชาวบ้านอยู่วิถีเดิม แต่สามารถมีรายได้จากนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ๆ นอกจากนี้สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำเป็นพิเศษคือ การสาธารณสุขต้องดี เราจะมุ่งสู่ World class คนภูเก็ตก็ต้องได้รับการดูแลในเรื่องสาธารณสุขอย่างดีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กระแสภายในพื้นที่ของผู้สมัครทั้ง 2 คนถือว่ามาแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นม้ามืดของผู้ท้าชิงสนามภูเก็ต

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ
ชวนเที่ยวงาน "เที่ยวถิ่น กินอร่อย สมุทรปราการ" ปี 67 จัดใหญ่จัดเต็มส่งท้ายความสุขช่วงปลายปี
"ทักษิณ" เล่นใหญ่ กลับเชียงใหม่ นำ "พิชัย" ชิงนายกอบจ. เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยได้ 10 สส.
แตกตื่นทั้งวอร์ด! หามผู้ป่วยพม่าติดโรคห่า 1 ราย ข้ามแดน ส่ง รพ.แม่สอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น