AFP และ NBC รายงานว่าองค์กรวิจัยอิสระด้านสุขภาพระดับโลก แห่งวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ของสหรัฐ หรือ IHME ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันไวรัสโควิดครั้งล่าสุดผ่านนิตยสารแลนเส็ตในวันนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลการศึกษาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ที่สุดในเรื่องภูมิคุ้มกันของโควิด เนื่องจากเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวน 65 ชิ้น ซึ่งรวบรวมมาจาก 19 ประเทศทั่วโลก
โดยผลการศึกษาชี้ว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อโควิดสามารถอยู่ได้นานถึง 10 เดือน ซึ่งเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์น่าจำนวน 2 โดสหรือมากกว่า โดยสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การป่วยหนักและเสียชีวิตได้มากถึง 88%
อย่างไรก็ตามหลังจาก 10 เดือนผ่านไป ภูมิคุ้มกันจะลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือ 36% ดังนั้น ผลการศึกษาระบุว่าวัคซีนยังคงจำเป็นในป้องกันการติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เคยติดเชื้อ กลุ่มผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว ทั้งนี้ผลการศึกษาดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้เห็นภาพสถานการณ์โควิดที่ชัดเจนขึ้นในอนาคต และสามารถใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือ CDC แนะว่าการฉีดเข็มกระตุ้นปกติควรมีขึ้นทุก 3 เดือน แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันดีหรือเพิ่งหายป่วยจากโควิดสามารถยืดเวลาฉีดวัคซีนออกไปได้ 6-8 เดือน