ช้างป่ารุกหนักยกฝูงหากินนอกพื้นที่ในพื้นเกษตรกรซ้ำทำร้ายคนงานตัดอ้อยหวิดดับ

ช้างป่ารุกหนักยกฝูงหากินนอกพื้นที่ในพื้นเกษตรกรซ้ำทำร้ายคนงานตัดอ้อยหวิดดับ

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 อาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญูได้รับแจ้งว่ามีคนงานตัดอ้อยถูกช้างป่าบุกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ บริเวณป่าอ้อยพื้นที่บ้านเขาจันทร์ ตำบลทุ่งพระยา อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทราเขตรอยต่ออำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและทำการช่วยเหลือ บริเวณที่ได้รับแจ้งอยู่บริเวณป่าอ้อยมีพื้นที่ขนาดประมาณ 100 ไร่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายหลังจากถูกช้างป่าเขาอ่างฤาไนพุ่งเข้าเตะบริเวณใบหน้าด้านขวาจนส่งผลให้สลบในที่เกิดเหตุ ก่อนทางเพื่อนๆคนงานที่กำลังมัดอ้อยอยู่ด้วยกันพากันอุ้มร่างผู้บาดเจ็บขึ้นรถ จากนั้นทางอาสากู้ภัยร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิเพื่อทำการรักษา เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดบวมบริเวณใบหน้าด้านขวา ซึ่งทางแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ และทางแพทย์ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล 1 วัน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บต่อมานายสสาลี ทึมกระโทก อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการสอบถามนายสสาลี ทึมกระโทก ผู้บาดเจ็บได้กล่าวว่า ตนกำลังก้มมัดอ้อยๆอยู่กับเพื่อนคนงานทั้งหมดแปดคน พอตนเงยหน้าขึ้นก็เห็นช้างตนจึงตะโกนบอกเพื่อนว่าช้างมา พอหันหน้ามาอีกทีช้างก็มาถึงตัวตนแล้วและก็เตะเข้าที่หน้าตนดังเปรี้ยงจนตัวลอยและสลบไป โดยช้างที่เข้ามาทำร้ายตนนั้นมาเพียงตัวเดียวและตัวใหญ่มาก ด้านนายสุศิษณ์ ศิลาชัย อายุ 49 เพื่อนคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ได้กล่าวว่า พวกตนกำลังก้มมัดอ้อยอยู่โดยช้างตัวนั้นเดินมาบนถนนซึ่งเป็นทางลูกรังทำให้พวกตนไม่ได้ยินเสียงช้างเดินมา หากเดินมาตามป่าอ้อยพวกตนก็จะได้ยินเสียง ทางเพื่อนผู้บาดเจ็บหันมาตะโกนบอกตนว่าช้างมาพอหันไปอีกทีช้างก็ได้เอาเท้าหน้าเตะเข้าบริเวณใบหน้าผู้บาดเจ็บจนตัวลอยและสลบหน้าทิ้งไป ครึ่งทางพวกตนก็ได้ตะโกนร้องทำให้ช้างตกใจวิ่งเข้าป่าอ้อยจากนั้นฝนจึงวิ่งไปอุ้มร่างผู้บาดเจ็บไปขึ้นรถที่จอดอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ โดยช้างตัวดังกล่าวยังหันหัวกลับมามองดูพวกตนอีก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตนตกใจมากจนตัวสั่นไปหมด

โดยหลังจากที่เกิดเหตุช้างป่าบุกทำร้ายคนงานตัดอ้อยในครั้งนี้ทางทีมผลักดันช้างเขาอ่าวหรือในได้ลงพื้นที่และได้ทำการผลักดันช้างตัวดังกล่าว โดยเหตุการณ์ช้างป่าบุกทำร้ายชาวบ้านลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นถี่และบ่อยครั้งในพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งมีรอยต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งที่มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ผลักดันช้างกันทุกวันก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทางชาวบ้านจึงอยากจะฝากวอนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขและจัดการกับช้างป่าเข้าอ่างฤาไนให้เป็นรูปประธรรมต่อไป

ภาพข่าว/สายชล หนูแดง ดิเรกฤทธิ์ แสงสุวรรณ /ปราจีนบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น