“ชูวิทย์” จี้ตร.ดำเนินคดี ม.112 “หยู ซินฉี” หลังแอบอ้างสถาบันฯเบื้องสูง

"ชูวิทย์" จี้ตร.ดำเนินคดี ม.112 "หยู ซินฉี" หลังแอบอ้างสถาบันฯเบื้องสูง

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองจอมแฉ เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายหยู ซินฉี ในข้อหา “แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง” ตามมาตรา 112 ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง หลังมีการเปิดเผยพฤติกรรมของนายหยู ซินฉี ที่แอบอ้างสถาบันเบื้องสูงในการอภิปรายไม่วางใจรัฐบาล มีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นผู้อภิปราย

โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า พฤติกรรมของนายหยูซินฉี ตนเองตามสืบสวน และรวบรวมข้อมูลมานาน มักแอบอ้างบุคคลสำคัญ ทหาร ตำรวจ ลามไปถึงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งนายหยู ซินฉี มักต่อวีซ่าโดยใช้บ้านที่จังหวัดชลบุรี อ้างเป็นที่พักถาวร แต่ความจริงเป็นบ้านร้าง ซึ่งการต่อวีซ่าถาวร จะต้องมีเงินฝากไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท วิธีการของจีนเทากลุ่มนี้คือ จะไปให้เอเย่น หรือนายหน้าที่สามารถเข้าถึงตำรวจ ตม.ดำเนินการต่อวีซ่าให้ โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีของคนจีน 8 แสนบาท เมื่อทำเรื่องต่อวีซ่าผ่าน ก็จะโอนเงินกลับ ซึ่งคนจีนกลุ่มนี้จะเสียค่าดำเนินการ 200,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเอเย่นน่าจะไปแบ่งให้กับตำรวจ ตม.

เห็นได้ชัดว่าตำรวจ ตม.หย่อนยาน ถ้ามีการตรวจสอบเงินในบัญชี น่าจะรู้ว่าเพิ่งมีการโอนเงินเข้ามา แต่ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง กลับปล่อยปละละเลย

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนพฤติการณ์ของนายหยู ซินฉี คือการเอาสถาบันที่รักยิ่งของคนไทยมาแอบอ้าง เข้ารับผลประโยชน์ของตนเอง สมควรต้องถูกดำเนินคดีมาตรา112 ทำให้สถาบันต้องเสื่อมเสียมัวหมอง และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14 อีกทั้งยังดูหมิ่นตนเอง ด้วยการใช้คำว่า “ขยะ”

และที่ตนเองรับไม่ได้คือ นายหยู นำเอาภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับสถาบันเบื้องสูงมาแอบอ้างนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ว่า มีความใกล้ชิดกับสถาบัน ตนเองจึงต้องออกมาปกป้องสถาบัน เพราะสถาบันนี้ คือสถาบันของคนไทย ถ้าคนต่างชาติไม่เข้าใจ ก็จะเอาไปหาผลประโยชน์ อยากให้ ผบ.ตร.เร่งจัดการ

โดยนายชูวิทย์ ได้นำภาพของนายหยู ซินฉี ที่ถ่ายรูปคู่กับราชนิกูลท่านหนึ่ง ซึ่งราชนิกูลท่านนี้ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา “มณฑลส่านซี สมาคมแห่งประเทศไทย” ตนเองเชื่อว่าราชนิกูลท่านนี้ไม่น่าจะรู้เรื่องอะไร น่าจะถูกนายหยู หลอกลวงแอบอ้างมากกว่า ไม่เว้นแม้กระทั่งรูปถ่ายคู่กับนายกรัฐมนตรี พระสงฆ์องค์เจ้า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ มาจากการหย่อนยานของหลายหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่ปล่อยให้จัดตั้งสมาคมเถื่อนอย่างเสรี ยกตัวอย่าง ที่จังหวัดกาญจนบุรี มีสมาคมเถื่อน ไม่น้อยกว่า 500 แห่ง ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่กำกับหน่วยงาน อย่างกรมการปกครอง มัวทำอะไรอยู่

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้เปิดเผยกลุ่มจีนสีเทากลุ่มใหม่ ชื่อว่า “14K” มาจากมาเก๊า เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีนาย “ไบ๋ เจ้าฮวย” เป็นเจ้าของ ก่อตั้งชื่อว่า “สมาคมหงเหมิน” ตัวสมาคมตั้งอยู่ที่ย่านศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและปลัดกระทรวงฯ ควรจะตรวจสอบ และทำงานให้มากกว่านี้ ซึ่งสมาคมพวกนี้ตนเองเรียกว่า “สมาคมอั้งยี่”

ซึ่งในส่วนนี้ ตนเองเชื่อว่า สมาคมจีนเทาเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่มีคนไทยไปช่วยเหลือ โดยใช้ทนายความคนไทยในการก่อตั้งสมาคม หรือมูลนิธิ เพราะคนจีนพูดไทยไม่ได้เมื่อจัดตั้งเสร็จ ก็ใช้เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม จึงอยากฝากถึงสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.ว่า ไม่ใช่แค่การยกเครื่อง แต่ต้องเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งในช่วงบ่ายโมงของวันพรุ่งนี้ตนเองจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล จะรวบรวมข้อมูลการทุจริตคอรัปชั่นทั้งหมดไปให้นายกรัฐมนตรี และจะตั้งโต๊ะแดง ตรวจโชคชะตาของบ้านเมือง ก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึง ซึ่งข้อมูลทุจริตคอรัปชั่นมีเกือบทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เจ้ากระทรวงไม่เคยดูแล หรือสนใจ มีตั้งแต่แก๊งพนันออนไลน์ไซส์ X ไซส์ L แก๊งเงินกู้ ไม่ใช่แค่องค์กรตำรวจ แต่ยังรวมไปถึงสถาบันตุลาการที่มีปัญหามานาน

ด้านพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามารับเอกสารร้องทุกข์กล่าวโทษจากนายชูวิทย์ พร้อมทั้งกล่าวว่า ความผิดของนายหยู ซินฉี ตอนนี้ มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 3 ข้อหา คือ 1.พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  2.พ.ร.บ.เรี่ยไร  และ 3.การจัดตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทั้งหมดเป็นความผิดพื้นฐาน โดยการทำงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแลกเปลี่ยนข้อมูล

สำหรับความผิดตามมาตรา 112 หลักคือต้องมีการกล่าวหานายชูวิทย์ จึงอาสามาเป็นผู้กล่าวหาเอง ซึ่งตนเองได้แจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้ว จากนี้ก็จะสืบสวนต่อไป สำหรับตัวหยู ซินฉี นั้น หากได้รับโทษในประเทศไทยแล้ว ก็จะถูกผลักดันออกนอกประเทศอย่างถาวร ส่วนการเปิดเผยแก๊ง “14K” กลุ่มทุนจีนจากมาเก๊าฮ่องกง จากนายชูวิทย์ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เหนือ-อีสาน อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิ 12 องศา 5 จว.ใต้เจอฝนฟ้าคะนอง กทม.เย็นสุด 18 องศา
"อัครนันท์" ชี้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โอกาสใหม่เศรษฐกิจไทย
ทบ.ชวนชมนิทรรศการภาพถ่าย “Unseen Moments” หลากแง่มุมชีวิตทหารผ่านเลนส์ ณ หอศิลปวัฒนธรรม กทม. 14-26 ม.ค.นี้
โฆษกตร.แจงเหตุ "พ.ต.อ.ไพรัตน์" ได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง แม้เคยถูกออกหมายจับในอดีต
สุดเศร้า "สาวไทยวัย 30 " จบชีวิตในห้องน้ำห้างดังมาเลเซีย ล่าสุดครอบครัว-ญาติ รู้ข่าวแล้ว
"พิพัฒน์" เปิดโครงการก.แรงงานพบประชาชน สนับสนุนการเข้าถึงโอกาสตำแหน่งงาน พัฒนาอาชีพบุคคล
"สำนักงานสลากฯ" เห็นชอบขายสลาก N3 ต่อเนื่อง งวดละ 5 ล้านรายการ พร้อมเพิ่มผู้แทนเดินจำหน่าย
ระทึก จนท.ช่วย "ช้างป่า" ขึ้นจากสระน้ำ ก่อนทำร้ายชาวบ้านบาดเจ็บสาหัส
ทางการจีนขอบคุณตร.ไทย ช่วยพลเมือง "ดารานายแบบ-เหยื่อชาวจีน" พ้นเงื้อมมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“นายกฯ” ยินดี “กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 2 เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 ย้ำรบ.เร่งเดินหน้าพัฒนาทั่วประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น