ขณะที่พรรคพลังประชารัฐเปิดผู้สมัครของพรรคทั้ง 9 เขต ประกอบด้วย รศ.ดร. รงค์ บุญสวยขวัญ เขต 1 สส.พปชร.ปัจจุบัน, นางสุภาพ ขุนศรี เขต 2 ส.อบจ.นครศรีธรรมราช, นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง เขต 3 ส.ส พปขร.ปัจจุบัน, นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เขต 4 ส.ส.พปชร.ปัจจุบัน, นายสุธรรม จริตงาม เขต 5 ทนายความ, ดร.คมเดช มัชฌิมวง์ เขต 6 อดีต นายก อบต.ยางค้อม, นายสุนทร รักษ์รงค์ เขต 7 , รอ.ดร.นพ. พิชาญศักดิ์ บุญมาศ รน.เขต 8 นายแพทย์ชื่อดัง และ นายณัฐเดช กังสุกุล เขต 9ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ในส่วนของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐเชื่อว่าเที่ยวนี้น่าจะลุ้นกันเหนื่อย เพราะก่อนหน้านี้การเลือกตั้งปี 62 ได้กระแสลุงตู่เป็นหลักจึงทำให้เจาะพื้นที่นครศรีธรรมราชได้ถึง 3 ที่นั่ง โดยส.ส.เมืองคอนพลังประชารัฐที่น่าจับตามอง คือ “สัญหพจน์ สุขศรีเมือง” ส.ส.เขต 2 ที่ฝ่าด่านชนะ “วิทยา แก้วภารดัย”มาได้ในการเลือกตั้งปี 62 ถือเป็นการ “ล้มช้าง” ที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับคนนครศรีธรรมราชอย่างมาก
ส่วน “อาญาสิทธิ์” ผู้แทนเขต 3 นั้น ต้องบอกว่า 2 ปีกับการเป็นผู้แทนทำให้มีเครือข่ายเพื่อนฝูง-ญาติพี่น้องมากขึ้น แต่การเลือกตั้งครั้งก่อนได้กระแสลุงตู่บวกกับแรงส่งของผู้ใหญ่ช่วยสนับสนุน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ผู้ใหญ่ที่เคยผลักดันแยกย้ายไปหมดแล้ว จึงทำให้กาเลือกตั้งครั้งนี้ “อาญาสิทธิ์” น่าจะลุ้นเหนื่อยเช่นกัน
มาที่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” แม้ตอนนี้ยังเปิดตัวผู้สมัครไม่ครบ แต่เชื่อได้ว่าจะส่ง “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย “สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์” อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ “สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชาธิปัตย์ที่ย้ายค่ายมาอยู่กับลุงตู่เรียบร้อย “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” ส.ส.นครศรีธรรมราช และ”ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ทายาททางการเมือง “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” อดีตเลขาธิการอาเซี่ยน และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศพรรคประชาธิปัตย์ลงสู้ศึก
ท้งนี้ “ตระกูลเสนพงศ์” ถือเป็นบ้านใหญ่ในเมืองนครศรีธรรมราช ที่ก่อนหน้านี้มีคำกล่าวไว้ว่าส่งเสาไฟก้ยังได้ แต่ปัจจุบันหลัง “เทพไท เสนพงศ์” ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสั่งให้พ้นเก้าอี้ ขาดสมาชิกภาพ ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และเพิกถอนสิทธิลงเลือกตั้ง 10 ปี ส่งให้บ้านใหญ่เสนพงศ์ซบเซาลง มาครั้งนี้ตระกูล “เสนพงศ์” หวังกู้ชื่อจึงจำเป็นต้องอาศัยกระแสลุงตู่ โดยส่ง “พงศ์สินธุ์” น้องชายอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะลงในเขต 3
ขณะที่ “ตระกูลแก้วภราดัย” หลังจาก “วิทยา แก้วภราดัย” ลาออกพรรคประชาธิปัตย์มานั่งกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยวางตัว”พูน แก้วภราดัย” ชิงเก้าอี้ ส.ส. เขต 1 แต่ยังไม่ลงตัวเนื่องจากมีดีลดึง “รงค์ บุญสายขวัญ” จากพลังประชารัฐกลับมาสู้ศึกในสีเสื้อรวมไทยสร้างชาติ
ขณะเดียวกันผู้สมัครอีก 1 คนที่น่าจับตามองคือ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” คือส.ส.ดาวรุ่งเมืองคอนที่ได้คะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเป็นลำดับหนึ่งที่ 41,771 คะแนน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ตัดสินใจแยกทางกับประชาธิปัตย์มาสวมเสื้อรวมไทยสร้างชาติ โดยตระกูลวิชัยกุลมีคอนเนคชั่น เชื่อมไปยังเครือข่ายการเมืองของ “กำนันศักดิ์” นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฏร์ธานี รวมถึงเครือข่ายของ “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส จ.ชุมพร แม่ทัพภาคใต้รวมไทยสร้างชาติ โดยทั้งหมดจะผนึกกับฐานเสียงในพื้นที่ และเชื่อว่า “พิมพ์ภัทรา” จะปักป้ายใน จ.นครศรีธรรมราชในเขต 8 ได้สำเร็จ
นอกจากนี้มีข่าวลือว่า “ตระกูลมาศดิตถ์” บ้านใหญ่เมืองคอนอีกหลัง นำโดย “สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์” อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช ซึ่งในระยะหลังแทบไม่มีบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้ “สุรเชษฐ์” ขอแยกทางและเตรียมจะเปิดตัวร่วมงานพรรครวมไทยสร้างชาติเช่นกัน
สุดท้ายพรรคภูมิใจไทยที่คราวนี้ไม่อาจมองข้าม โดยผู้สมัครทั้ง 9 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายจรัล ขุนอินทร์ นายกสมาคมศิษย์เบญจมฯ เขต 2 นางสาววาริน ชินวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 3 นายมานะ ยวงทอง นักธุรกิจผลิตกระดาษลูกฟูก เขต 4 นายณัฐกิติ์ หนูรอด อดีตปลัด อบจ.พัทลุง เขต 5 นายสมศักดิ์ แสงอารยะกุล อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต 6 นายษฐา ขาวขำ อดีต นายอำเภอถ้ำพรรณรา เขต 7 นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต 8 นางสาวนันทวรรณ วิเชียร อดีต ขรก.สาธารณสุข และ เขต 9 พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ อดีต ผบ.กองร้อยค่ายรบพิเศษ สิชล โดยมี นายอารีย์ ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นแม่ทัพใหญ่ตั้งเป้าจะยึดที่นั่งให้ถึง 3 เก้าอี้
ต้องบอกว่าเป็นพรรคที่น่าจับตามอง เพราะในเขต 1 “จรัล ขุนอินทร์” หรือผู้การติ๊กน่ าจะเป็นตัวสอดแทรกที่แย่งคะแนนไปได้ไม่น้อย เพราะมีครือข่ายศิษย์เก่า รร.เบญจมะอย่างแนบแน่น และทุกวันนี้ผู้การติ๊กนั่งเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าเบญจมะโดยหลังจากลงพื้นที่พบปะประชาชนทำให้คะแนนตีดีวันดีคืน
ส่วนเขต 3 “มานะ ยวงทอง” นักธุรกิจธุรกิจผลิตกระดาษลูกฟูกเป็นคนตำบลเขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ย่านเดียวกับ “กำนันยงยศ แก้วเขียว”นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย “มานะ” เรียนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร
ที่น่าจับตาอีกคือเขต 4 นาย“ณัฐกิตติ์ หนูรอด” ลาออกจากราชในตำแหน่งปลัด อบจ.พัทลุง มาลงในนามภูมิใจไทย โดยณัฐกิตติ์มีฐานฐานเสียงย่านควนเคร็ง ชะอวด ไม่ธรรมดาเช่นกัน
สุดท้ายการเลือกตั้งเมืองคอนคงเป็นการสู้ศึกระหว่าง 4 พรรคใหญ่ที่ขนบรรดาบ้านใหญ่มาปะทะกันอย่างดุเดือด งานนี้มาลุ้นกันว่า พรรคใดจะไปถึงฝั่งฝันได้มากกว่ากัน หรือจะมีตาอยู่เป็นตัวสอดแทรก และเขตใดจะมีการล้มช้างเกิดขึ้นอีกหรือไม่..?