ชำแหละ “หมอสุภัทร” เปิดศึกเอาคืนภูมิใจไทย

ชำแหละ “หมอสุภัทร” เปิดศึกเอาคืนภูมิใจไทย

จับตาการเคลื่อนไหว “หมอสุภัทร” ย้ายไปโรงพยาบาลสะบ้าย้อย ถูกการเมืองแกล้งจริงหรือเท็จ เผยเบื้องลึกยุทธการเอาคืนหมอหนู “อนุทิน”ทำงานสอดประสานกับพรรคประชาชาติ ตีฐานเสียงของภูมิใจไทยใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จับตา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ใครปักธงหลังเอาปมกัญชาเป็นตัวจุดไฟ

 

 

 

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงกรณีคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งทำให้เจ้าตัวไม่พอใจอย่างรุนแรง เพราะฝังตัวอยู่ในเก้าอี้เดิมมาถึง 24 ปี ทำให้หมอสุภัทรใช้แนวร่วมทุกองคาพยพออกมาเคลื่อนไหว คัดค้านกับคำสั่งดังกล่าวจากกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน กลุ่มเอ็นจีโอ พรรคการเมือง สื่อในมือที่พร้อมใจกันออกมาต่อต้าน ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข

 

หมอสุภัทร” ชี้ไม่เคยค้านพรรคภูมิใจไทย เพราะมีจุดร่วมเดียวกัน คือ หนุน “กัญชาทางการแพทย์” | Hfocus.org เจาะลึกระบบสุขภาพ

 

 

ทั้งนี้หมอสุภัทร ฟันธงว่าสาเหตุในการถูกย้ายครั้งนี้ เพราะเป็นใบสั่งทางการเมือง จากการที่ตัวเองเคลื่อนไหวคัดค้านนโยบายกัญชากระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกัญชาถือเป็นนโยบายหลักของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังเป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งปี 2562

ล่าสุดงานนี้ดูเหมือนว่าจะมียุทธการเอาคืนพรรคภูมิใจไทยของหมอหนู โดยมีแนวร่วมพรรคประชาชาติเพื่อตีฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ด้วยการใช้นโยบายกัญชามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ปรากฏภาพนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางไปที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อย เพื่อให้กำลังใจหมอสุภัทรที่เข้าทำงานวันแรก และในวันดังกล่าวนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ยังประกาศชัดเจนว่า ตนเองเห็นด้วยกับหมอสุภัทรในการคัดค้านกัญชาเสรี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ พบว่าการเคลื่อนไหวของพรรคประชาชาติก็สอดรับกับหมอสุภัทรมาโดยตลอด เช่น ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา วาระแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ส.ส.มุสลิม พรรคประชาชาติ ประกอบด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 และนายกูเฮง ยาวอหะวัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 ก็ลุกขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชา เพราะขัดหลักศาสนาอิสลาม

 

 

ทำให้นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนับถืออิสลามเช่นกัน ได้โต้แย้งทั้ง 3 คนว่า พรรคภูมิใจไทยเสนอปลดล็อกกัญชาด้วยเหตุผลเพื่อนำมันมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ ไม่ได้สนับสนุนให้มาใช้ด้านนันทนาการ อีกทั้งนายศุภชัยยังย้อนส.ส.ประชาชาติด้วยว่า ปัญหาเยาวชนในสามจังหวัดภาคใต้ที่ติดยาเสพติด 4X100 และไม่ได้มีกัญชาเป็นส่วนผสม ก็ยังดำรงอยู่ ถามว่าตอนนั้นจนถึงวันนี้ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากพรรคใด ผ่านเลขา ศอบต.มาหลายต่อหลายคน (ศุภชัยกระทบชิ่งไปที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.ประชาชน ที่เคยเป็นเลขาศอ.บต.) และเหตุใดยังแก้ปัญหานั้นไม่ได้

การที่หมอสุภัทรมาจับมือกับพรรคประชาชาติเคลื่อนไหวต่อต้านกัญชา ย่อมจะส่งผลกระทบต่อสนามเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของพรรคภูมิใจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหมอสุภัทรและพรรคประชาชาติจะนำประเด็นนี้มาโจมตีพรรคภูมิใจไทยแน่นอน ยิ่งการที่หมอสุภัทรได้ไปอยู่ที่รพ.สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ยิ่งมีผล เพราะพื้นที่นี้ ส.ส.คือนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ จากพรรคภูมิใจไทย

จากข้อมูลการเลือกตั้งปีพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี เดิมเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส.ส.มาเพียง 1 คน คือ นายอันวาร์ สาและ เขต 1 ปัตตานี ที่รอบนี้ย้ายไปสังกัดพลังประชารัฐ

ขณะที่พรรคประชาชาติ ของนายวันนอร์ สามารถกลับมาครองใจชาวไทยมุสลิมได้ ชนะไปถึง 6 คน ได้แก่ 1.นายอนุมัติ ซูสารอ เขต 3 ปัตตานี 2.นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ เขต 4 ปัตตานี 3.นายกูเฮง ยาวอหะซัน เขต 3 นราธิวาส 4.นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เขต 4 นราธิวาส 5.นายซูการ์โน มะทา เขต 2 ยะลา 6.นายอับดุลอายี สาแม็ง เขต 3 ยะลา

พรรคพลังประชารัฐ 3 คน นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ เขต 1 ยะลา ,นายวัชระ ยาวอหะซัน เขต 1 นราธิวาส และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ เขต 2 นราธิวาส

ด้านพรรคภูมิใจไทยได้มา 2 คน ได้แก่ นายอับดุลบาซิม อาบู เขต 2 ปัตตานี และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เขต 7 จังหวัดสงขลา ที่ประกอบด้วย อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี และอำเภอสะเดา

สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 4 อำเภอสงขลา จะมีทั้งหมด 13 เขต 13 ที่นั่ง โดยนราธิวาสเพิ่มมา 1 เขต รวมเป็น 5 เขต ยะลา 3 เขต ปัตตานี 4 เขต และอำเภอสงขลาที่ติดกับจังหวัดชายแดนใต้อีก 1 เขต

 

พรรคประชาชาติ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครบแล้วทั้ง 13 เขต ซึ่งมีส.ส.แชมป์เก่า 5 คน ลงป้องกันแชมป์ ได้แก่ นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4, นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4, นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา เขต 2 นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 ส่วนนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.เขต 3 ปัตตานี รอบนี้พรรคไม่ลงสมัคร เพราะนายอนุมัติทำผิดข้องบังคับพรรค โดยส่งนายมูฮัมหมัด อารีฟีน จะปะกิยา เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี เขต 3 ขณะที่เขต 7 สงขลา พรรคส่งนายอับดุลเราะมัน มอลอ ลงสมัคร ชนกับนายณัฏฐ์ชนน จากภูมิใจไทย

 

ด้านพรรคภูมิใจไทย วางตัวผู้สมัครส.ส.ครบทั้ง 13 เขตแล้ว นายณัฏฐ์ชนน ลงป้องกันแชมป์สงขลาเขต 7 ตามเดิม เช่นเดียวกับนายอับดุลบาซิม อาบู แชมป์เก่า ปัตตานี เขต 2 ลงสมัครตามเดิม โดยเขตที่มีความหวังอีก 1 เขตคือ ที่ปัตตานี ซึ่งพรรคส่ง หมอเพชรดาว โต๊ะมีนา ลงสมัคร เขต 1 หลังรอบที่แล้วลงบัญชีรายชื่อ และได้เข้าสภาสมใจ ส่วนนราธิวาสพรรคก็ตั้งเป้าแลนด์สไลด์ทั้ง 5 เขต

 

พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวทั้งว่าที่ผู้สมัครทั้ง 13 เขต แล้วเช่นกัน โดยเขต 1 ปัตตานี พรรคได้ส่งนายสนิท อาแว ลงสมัครแทนนายอันวาร์ ส่วนที่เหลือแทบจะเปลี่ยนผู้สมัครใหม่ทั้งหมด โดยที่น่าสนใจคือ นายเมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน นักร้องนำวงร็อกชื่อดัง ที่ลงสมัครใน จังหวัดนราธิวาส เขต 2 และนายเจะอาหมิง โตะตาหยง อดีตส.ส.เก่าของพรรค แต่ครั้งที่แล้วไปลงสมัครพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่สอบตก รอบนี้จึงหวนกลับบ้านเก่าอีกครั้ง โดยลงสมัครเขต 5 นราธิวาส ด้านสงขลาเขต 7 ส่งนายศิริโชค โสภา ไปแก้มือนายณัฏฐ์ชนน พรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง

 

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งจะปิดดีลกับบ้านใหญ่นราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส พร้อมกับวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาสแล้ว เขต 1 รอ นายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตัดสินใจขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เขต 2 นายสารี สะมะแอ เขต 3 นายมะหามัด ฮามิ และเขต 5 นายอามีน โต๊ะนากายอ เหลือเพียงผู้สมัครเขต 4 ส่วนยะลา ปัตตานี พรรควางตัวผู้สมัครครบเรียบร้อย ขณะที่เขต 7 สงขลา รวมไทยสร้างชาติยังไม่เคาะผู้สมัคร

 

ข้อมูลประชากรราว 2.2 ล้านคน พบว่าร้อยละ 85.42 นับถือศาสนาอิสลาม ขณะที่ร้อยละ 14.58 นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ หากพรรคใดมัดใจพี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ ย่อมมีโอกาสคว้าชัยในสนามเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยมีกัญชาเป็นตัวแปรสำคัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น