นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่า ครบรอบ 3 ปี ยุบอนาคตใหม่ ความในใจหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ รวมถึงคุณ Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้คือวันครบรอบ 3 ปีที่ฝ่ายชนชั้นนำพยายามบดขยี้พวกเรา พรรคการเมืองฝ่ายค้านหน้าใหม่ทั้งๆ ที่มีอายุไม่กี่ขวบดีด้วยซ้ำ วันนี้ยังเป็นวันครบรอบ 3 ปี ที่ผมทำหน้าที่ผู้นำของพรรคที่ไม่มีแม้แต่ชื่อในตอนนั้น ผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาจนเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตผมที่ได้นำทัพพรรคก้าวไกลทำงานทั้งในสภาและนอกสภาตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของประเทศเรา ไหนจะโรคระบาดครั้งใหญ่ ไหนจะปัญหาการเมือง ไหนจะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ลามมาถึงภาวะเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าการทำงานของผมจะห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ ผมเองรู้ตัวผมดี แต่ผมก็ทุ่มเททั้งตัวและจิตวิญญาณเท่าที่มีให้กับการทำงานการเมือง ประกอบกับ ความช่วยเหลือและการทำงานเป็นทีมของพวกเราทีมงานพรรคก้าวไกลทุกคน ทำให้เราฆ่าไม่ตายอย่างที่พวกเขาหวังไว้ แต่กลับโตขึ้นอย่างที่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เรายังย้ำคำว่า “เราคือผู้คนและการเดินทาง”
1) เราได้ความไว้วางใจจากประชาชนเป็น อันดับ 1 เป็นเวลา 4 ปีซ้อน ผ่านเงินบริจาคจากภาษี 164 ผมต้องขอบคุณแรงสนับสนุน
2) ด้วยแรงของทีมงาน จำนวนสมาชิกของพรรค จำนวน 7 หมื่นกว่า แซงขึ้นเกินอนาคตใหม่ไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีช่วงโควิดมาทำให้งานหาสมาชิกของเรายากลำบาก
3) เราเดินทางมากกว่า 50,000 กิโลเมตรทั่วประเทศและมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะทางมากกว่าเดินทางรอบโลกเสียอีก
การเมือง สำหรับผม มันคือความตั้งใจ การเตรียมตัวตั้งแต่อายุ 21-22 ปี นั่งฟัง นั่งจด ปัญหาประชาชน อยู่หลังห้องที่ประชุมทำเนียบรัฐบาลตอนปี 47-49 มันคือการเป็นเด็กคอยถอดคล้องพ่วงมาลัยว่าที่ผู้สมัครเวลาถามสาระทุกสุขดิบชาวบ้าน ครูพักลักจำมาเรื่อยๆ มันคือการเริ่มต้นด้วยการเป็นเลขานุการ กรรมาธิการก่อนมาเป็นประธานเองหลายปีให้หลัง มันคือการไปเรียนต่อการเมืองโดยเฉพาะ เตรียมตัวกลับมาเพื่อเป็นนักการเมืองที่ดี ทำงานได้
ย้อนเวลากลับไป 3 ปีที่แล้ว ตัวผมยังจำเหตุการณ์ ตอนนั้น ได้ดี ณ ห้องอาหารแห่งหนึ่ง ตอนที่พรรคเริ่มโดนกล่าวหา เริ่มมีคดียุบพรรค ผมและรองหัวหน้าก้าวไกลปัจจุบันหลายท่าน ถูกคุณปิยบุตร ดึงเข้าไปเตรียมพร้อมกรณีเหตุการณ์แย่ที่สุดเกิดขึ้น คือ พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พร้อมได้เล่า เตรียมรับมือการทำลายความฝันพวกเรา ณ ตอนนั้น ไม่มีใครพร้อมรับการนำธง ส่วนตัวผมเอง เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ลูกสาวพึ่งจะ 2 ขวบ แม้ผมจะพร้อมเสียสละทุกอย่างเพื่อพรรค ทั้งสุขภาพ ทั้งชีวิต ทั้งครอบครัว ผมขอเหลือไว้อย่างเดียวที่ทิ้งไม่ได้ คือ บทบาทความเป็นพ่อของลูกสาว คุณปิยบุตรเข้าใจ เห็นพิพิมเป็นเหมือนหลาน และยอมรับเงื่อนไขนี้ ถ้าไม่มีใครยอมรับตำแหน่งจริงๆ ผมจะรับให้ ไม่งั้นเรือก็ต้องแตก ที่เราทำกันมาก็ต้องสูญเปล่าทั้งหมด ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ศัตรูต้องการ แต่ทั้งหมดทั้งปวง โครงสร้างบริหารพรรคต่อจากอนาคตใหม่ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามข้อบังคับพรรคใหม่ ตามความปรารถนาของสมาชิกพรรคใหม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง