“นักวิชาการ” ซัดเดือด พรรคการเมืองสุดเพ้อ หาเสียงจะขึ้นเงินเดือนขรก. ยกเหตุผลเทียบขอทานยังมีเกียรติกว่า

เรื่องใช้เงินใคร ๆ ก็ทำได้ ขอทานถูกหวยก็ใช้เงินเป็น แต่เรื่องหาเงินไม่เคยมีพรรคไหนออกมาหาเสียงว่าจะหาเงินเข้าประเทศได้อย่างไรบ้าง จะหาเงินเข้าเพิ่มในงบประมาณประจำปีในการบริหารประเทศทางไหนบ้าง ไม่มีสักพรรคหนึ่งที่ออกมาพูดเรื่องนี้ มีแต่ออกมาหาเสียงโดยเอาเงินของประเทศมาถลุงกับสัญญาว่าจะให้โน่นนี่นั่น หาเสียงโดยไม่สะเทือนกับเงินในกระเป๋าตัวเองเลยสักบาทเดียว เงินที่เอามาหาเสียงคือเงินภาษีล้วน ๆ เงินงบประมาณแผ่นดินทั้งนั้น ประเทศอาเจนตินาก็เคยพังทั้งประเทศกับนักการเมืองแบบนี้ ที่หาเสียงโดยใช้เงินภาษีของประเทศมาแจกเพื่อเรียกคะแนนเสียงแบบไร้เหตุผล”

ผมอยากจะเริ่มที่ตัวเลขงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 ที่มีอยู่ 3.18 ล้านล้านบาท ซึ่งมีรายจ่ายประจำกินเข้าไป 2.39 ล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว มันคือประมาณ 75% ของเงินที่มีอยู่ที่จะต้องใช้บริหารประเทศ เหลืออีกประมาณ 25% ที่จะต้องใช้ในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติที่วางเอาไว้จนถึงปี 2580 เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่ประเทศพวกเขารอบบ้านเราก็ไม่เคยหยุดที่จะแข่งกับเรา เรื่องหนี้สินของประเทศที่ต้องรักษาเครดิต เงินฉุกเฉินเมื่อประเทศประสบวิบัติภัย ฯลฯ สาระพัดรายจ่ายที่จะต้องใช้ ก็อยู่ในเงินที่เหลือทั้งหมดนี้

แล้วผมอยากจะถามคำถามเดิมอีกครั้งว่า สมมุติว่าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลจะไปเอาเงินที่ไหนมาที่จะทำตามที่หาเสียงเอาไว้ว่าจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการอีก 70% จะหาเงินเข้าระบบได้อย่างไร ทั้งที่ทุกวันนี้ก็มีงบประมาณแบบขาดดุลมาหลายปีแล้วเพื่อเอามาลงกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อให้เรามีต้นทุนประเทศที่จะแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ในอนาคต

ทุกวันนี้เงินภาษีก็ได้มาก็แบ่งเอาไปลงกับงบประมาณแผนงานบูรณาการ และอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ไม่น้อยแล้ว นั่นคือส่วนหนึ่งของงบประมาณขาดดุลที่รัฐต้องแบกรับกันมา ทั้งรัฐบาลนี้และอีกสมัยก่อนหน้านี้ก็เฉลี่ยความเจริญไปทั้งประเทศด้วยงบประมาณที่เท่าเทียมกัน และไม่เคยพูดว่า “จังหวัดไหนเลือกพรรคเราก็ได้งบประมาณการพัฒนาจังหวัดไปก่อน” เหมือนบางรัฐบาลในอดีตที่ผู้นำรัฐบาลโดนถีบตกเก้าอี้ไปโดยคำสั่งศาลอย่างที่เคยเห็นกันมา

ขอทานยังมีเกียรติตรงที่ใช้เงินทุกบาทที่ตัวเองหามาได้ แต่คนที่หาเสียงโดยสัญญาว่าจะให้โดยไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเองสักบาท ผมมองว่าแย่ยิ่งกว่าขอทานเสียอีก